ผ่าอาณาจักร “วงษ์สยามฯ” 8 ปีคู่ค้ารัฐ 5 พันล้าน ก่อนปมร้อนประมูลท่ออีอีซี

ผ่าอาณาจักร “วงษ์สยามฯ” 8 ปีคู่ค้ารัฐ 5 พันล้าน ก่อนปมร้อนประมูลท่ออีอีซี

ผ่าอาณาจักร “วงษ์สยามก่อสร้าง” 8 ปี คู่สัญญารัฐ 5,098 ล้านบาท “การประปาส่วนภูมิภาค” รายใหญ่ แจ้งรายได้ล่าสุดปี 63 กว่า 1.3 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 46 ล้านบาทเศษ

โครงการบริหารและดำเนินกิจการท่องส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นอีกหนึ่งโครงการร้อนที่กำลังถูก “ฝ่ายค้าน" เก็บข้อมูลเตรียมนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
    
เนื่องจากถูก “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหารบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ “อีสท์วอเตอร์” ออกมาแฉผ่านสื่อว่า การประมูลครั้งนี้อาจมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น โดยกล่าวหาว่ามีการ “ล็อกสเปก” ส่งผลให้ “อีสท์วอเตอร์” พ่ายแพ้ในการประมูลครั้งนี้

ขณะที่ผู้ชนะการประมูลอย่าง บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ถูกกรมธนารักษ์ หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง เลื่อนการเซ็นสัญญาออกไปก่อน ท่ามกลางการตื่นตัวของ “บิ๊กรัฐบาล” นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยด่วน 

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เสนอเรื่องให้ รมว.คลัง (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หลัง รมว.คลัง มีคำสั่งแต่งตั้ง
    
สำหรับประเด็นการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ จะพิจารณาว่าการประมูลโครงการที่ผ่านมา เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และจะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่จริง เพื่อเตรียมประเด็นการส่งมอบว่าจะมีประเด็นการส่งมอบรับมอบของผู้ได้รับสัมปทานรายเดิมกับรายใหม่หรือไม่

ข้อเท็จจริงเหล่านี้คงต้องรอผลการสอบสวนจากภาครัฐ รวมถึงพยานหลักฐานของฝ่ายค้านที่เตรียมไปถล่มรัฐบาลในศึกซักฟอกหลังจากนี้

แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา (2558-2565) โดยเฉพาะการประปาส่วนภูมิภาค อย่างน้อย 12 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงิน 5,098 ล้านบาท ได้แก่

  • ปี 2564 คู่สัญญารัฐ 4 โครงการ รวมมูลค่า 823.23 ล้านบาท
  • ปี 2563 คู่สัญญารัฐ 2 โครงการ รวมวงเงิน 2,373.76 ล้านบาท
  • ปี 2562 คู่สัญญารัฐ 1 โครงการ รวมวงเงิน 427 ล้านบาท
  • ปี 2561 คู่สัญญารัฐ 1 โครงการ รวมวงเงิน 157.53 ล้านบาท
  • ปี 2558 คู่สัญญารัฐ 4 โครงการ รวมวงเงิน 1,318.41 ล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 พบว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2519 ทุนปัจจุบัน 630 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 111 ซอยพหลโยธิน 8 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

ปรากฏชื่อ นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย และนางสาวสุชานุช เกิดสินธ์ชัย เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2564 มีอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย ถือหุ้นใหญ่สุด 74.5238% นางสาวสุชานุช เกิดสินธ์ชัย ถือ 25.0317% นางสาว วรนุช เกิดสินธ์ชัย ถือ 0.3889% นางสาว วลัยพันธ์ เกิดสินธ์ชัย ถือ 0.0556%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 1,614,812,737 บาท หนี้สินรวม 367,773,026 บาท มีรายได้รวม 1,356,097,991 บาท รายจ่ายรวม 1,292,468,249 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 792,272 บาท เสียภาษีเงินได้ 15,928,972 บาท กำไรสุทธิ 46,908,497 บาท

สำหรับนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด พบว่า เป็นกรรมการบริษัทอีกอย่างน้อย 5 แห่ง ได้แก่

  • บริษัท ข้าวกรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร
  • บริษัท ทีพีเอ แอสเซ็ท จำกัด ทำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด
  • บริษัท ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์ จำกัด ทำธุรกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร
  • บริษัท เมเวธเธอร์ กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก
  • บริษัท เอสทีพี อาร์แอนด์ดี วอเตอร์ เวอร์ค จำกัด ทำธุรกิจการติดตั้งระบบประปาและระบายน้ำ

อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง บุคคลและนิติบุคคลทั้งหมดจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่