ชำแหละเสียง “กลุ่มสวิงโหวต” อาวุธลับล้ม“ประยุทธ์”คาสภาฯ

ชำแหละเสียง “กลุ่มสวิงโหวต” อาวุธลับล้ม“ประยุทธ์”คาสภาฯ

พรรคเศรษฐกิจไทย + กลุ่ม 16 จำนวน 30 เสียง จะเป็นตัวแปรสำคัญในการโหวตศึกซักฟอกครั้งนี้ หาก 30 เสียง สวิงไปโหวตล้มผู้นำรัฐบาล โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ย่อมมีสูงเช่นกัน

ใกล้เปิดสมัยประชุมสภาฯ ใกล้ถึงวันชี้ชะตา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม จะอยู่บนหลังเสือ จะอยู่ในตำแหน่ง “ผู้นำประเทศ” ได้อีกนานเท่าไร โดยเฉพาะเงื่อนปมอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ “ขั้วฝ่ายค้าน” ลับมีดรอเชือดไว้แล้ว

ไพ่ยุบสภาในมือ “พล.อ.ประยุทธ์” จะใช้ไม่ได้ในทันทีหลัง “ขั้วฝ่ายค้าน” ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะเป็นเงื่อนตายผูกกับตัวของ นายกฯเอาไว้ แม้ลำพังเสียงของ “ขั้วฝ่ายค้าน” จะไม่สามารถล้มพล.อ.ประยุทธ์ได้ แต่เสียงจาก “ขั้วรัฐบาล” จะเป็นตัวแปรผันเปลี่ยนสมการทางการเมือง

ปรากฎการณ์ “กลุ่ม 16” ที่มี “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เดินสายขย่มโหมกระแสอย่างหนัก รูป “พิเชษฐ” ร่วมโต๊ะอาหารกับ “ขั้วฝ่ายค้าน” ถูกปล่อยออกมาหลายครั้ง เป้าของ “ขั้วฝ่ายค้าน” พยายามส่งสัญญาณเขย่า “3 ป.” เป้าของ “พิเชษฐ” ต้องการสร้างเครดิตกลุ่ม 16 เพิ่มมูลค่าทางการเมือง และเช็คบิลรัฐมนตรีบางราย จึงสมประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

เมื่อความพยายามปล่อยข่าวล้ม พล.อ.ประยุทธ์ถูกเซ็ตอย่างเป็นระบบ แม้ “ขั้วรัฐบาล” จะมั่นใจว่าสามารถฝ่าด่านศึกซักฟอกไปได้ แต่เมื่อมีแรงต่อรองทางการเมือง เสถียรภาพของเก้าอี้นายกฯ ย่อมแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา

หากเช็คเสียง ส.ส. ในสภาขณะนี้มี 476 เสียง ขั้วรัฐบาล 238 เสียง (รวมสวิงโหวต) ขั้วฝ่ายค้าน ฝ่ายค้าน 208 เสียง (รวมส.ส.งูเห่า) และ “กลุ่มสวิงโหวต” (พรรคเศรษฐกิจไทย+ กลุ่ม 16) ประมาณ 30 เสียง

“พรรคเศรษฐกิจไทย” ภายใต้การนำของ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย คู่ปรับ-คู่แค้นพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งต้องลุ้นหนักว่า 18 เสียง พรรคเศรษฐกิจไทย จะโหวตสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ซึ่งต้องวัดใจ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในนาทีสุดท้ายว่าจะกดปุ่มให้พรรคเศรษฐกิจไทยโหวตไปในทิศทางใด

ขณะเดียวกันเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มี ส.ส. 95 เสียง แต่มี “กลุ่มสวิงโหวต” ซึ่งอยู่ในขั้วของ “พล.อ.ประวิตร” ไม่น้อยกว่า 40-50 เสียง ส่วนกลุ่มที่อยู่ขั้ว “พล.อ.ประวิตร” มีน้อยกว่า 40 เสียง ทำให้ ส.ส. พลังประชารัฐ ที่สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์” มีน้อยกว่า ส.ส. สนับสนุน “พล.อ.ประวิตร”

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำนวน 51 เสียง ยังไม่การันตีว่าจะเทเสียงโหวตให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ทั้งหมด เพราะภายหลังเกิดกรณี “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในพรรค โดย “ขั้วอำนาจเก่า” ที่ผูกโยงกับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรคปชป. พยายามจุดกระแสพลิกสถานการณ์มาคุมพรรค แม้ความเคลื่อนไหวจะซาลง แต่ยังมีคลื่นใต้น้ำเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

โดยเสียงของส.ส.พรรค ปชป.ที่การันตีว่าจะโหวตสวนมติพรรคมีอย่างน้อย 2 เสียง ประกอบด้วย “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี “พนิต วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งโหวตสวนพรรคร่วมรัฐบาลทุกครั้งอยู่แล้ว

ส่วนเสียงที่จะมีโอกาสโหวตสวนมติพรรคเพิ่มขึ้น ซึ่งอยู่ในข่ายไม่พอใจกรณี “ปริญญ์” ประกอบด้วย “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง “กนก วงศ์ตระห่าน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ “ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้เสียง ส.ส.ปชป. จะถูกจัดไปอยู่ใน “กลุ่มสวิงโหวต” จำนวน 5 เสียง จาก 51 เสียง จึงอาจมีจำนวนโหวตให้ “ขั้วรัฐบาล” 46 เสียง

สำหรับเสียงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่มี “สวิงโหวต” อย่างแน่นอน ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 65 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 12 เสียง ซึ่งพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา เสียง ส.ส.การันตีว่า โหวตไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีแตกแถวโหวตล้ม พล.อ.ประยุทธ์ อย่างแน่นอน

ด้าน “ขั้วฝ่ายค้าน” มีปัญหาไม่แพ้กัน เนื่องจากมี ส.ส.งูเห่า แฝงอยู่ ทั้งที่เปิดเผยตัว และไม่เปิดเผยตัวจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ “พรรคเพื่อไทย” มี ส.ส. 133 เสียง แต่มี 3 ส.ส. จากศรีสะเกษเตรียมย้ายสังกัดไปพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย “ผ่องศรี แซ่จึง” ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 “จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์” ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 “ธีระ ไตรสรณกุล” ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5

ขณะที่พรรคก้าวไกล ซึ่งมี ส.ส. 51 เสียง แต่มี 4 ส.ส.งูเห่า โหวตให้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ในศึกซักฟอกครั้งที่แล้ว ประกอบด้วย นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพีรเดช คำสมุทร นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย และนายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี

นอกจากนี้ ยังมีพรรคเพื่อไทย 6 เสียง ซึ่งมีกระแสข่าวมาตลอดว่า “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เปิดดีลกับขุมอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีโอกาสสวิงโหวตให้ขั้วรัฐบาล 

ขณะเดียวกัน ยังมีกระแสข่าวมาตลอดว่า “ส.ส.ขั้วฝ่ายค้าน” ถูกพลังดูดจาก “ขั้วรัฐบาล” และมีโอกาสย้ายขั้วค่อนข้างสูง เมื่อรวมกับที่เปิดตัวผ่านการโหวตไปแล้ว “ส.ส.ขั้วฝ่ายค้าน” ที่มีโอกาสโหวตให้ “ขั้วรัฐบาล” ไม่น้อยกว่า 15 เสียง

ฉะนั้นสามารถจำแนกทิศทางการโหวตได้ดังนี้ “ขั้วรัฐบาล” มีจำนวน 238 เสียง จะมี “กลุ่มสวิงโหวต” ไม่น้อยกว่า 55 เสียง จะทำให้เหลือเพียง 178 เสียง ส่วน “ขั้วฝ่ายค้าน” มี 208 เสียง แต่มี “กลุ่มสวิงโหวต” ไม่น้อยกว่า 15 เสียง ทำให้เหลือ “ขั้วฝ่ายค้าน” เพียง 193 เสียง

ดังนั้นเสียงของ พรรคเศรษฐกิจไทย + กลุ่ม 16 จำนวน 30 เสียง จะเป็นตัวแปรสำคัญในการโหวตศึกซักฟอกครั้งนี้ หาก 30 เสียง สวิงไปโหวตล้มผู้นำรัฐบาล โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ย่อมมีสูงเช่นกัน

จึงต้องจับตาทุกจังหวะก้าวทางการเมืองว่า ความพยายามจะจัดการ “กลุ่มสวิงโหวต” ของทั้ง 2 ขั้วการเมืองในเกมสภาฯ ครั้งนี้ จะเป็นไปอย่างไร 

ชำแหละเสียง “กลุ่มสวิงโหวต” อาวุธลับล้ม“ประยุทธ์”คาสภาฯ