“อดุลย์” จ่อพบ “อุ๊งอิ๊ง” ขอบคุณ “ทักษิณ” สร้างอนุสาวรีย์-มูลนิธิพฤษภาฯ

“อดุลย์” จ่อพบ “อุ๊งอิ๊ง” ขอบคุณ “ทักษิณ” สร้างอนุสาวรีย์-มูลนิธิพฤษภาฯ

“อดุลย์” ชี้เหตุหนุน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯขัดตาทัพระวังหลัง “บิ๊กตู่” ลงจากตำแหน่งอย่างปลอดภัย จ่อเข้าพบ “อุ๊งอิ๊ง” หวังฝากขอบคุณ “ทักษิณ” มีน้ำใจอนุมัติสร้างอนุสาวรีย์ - ตั้งมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 ที่รัฐสภา กลุ่มญาติวีรชนพฤษภา’35 ที่นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อเชิญร่วมงาน 30 ปีรำลึกพฤษภาประชาธรรมวันที่ 17 และ 19 พ.ค. 2565  

โดยนายชวน กล่าวว่า ตนยินดี และตอบรับที่จะเป็นประธานเปิดงานดังกล่าว ทั้งนี้ ระหว่างการพูดคุยนายชวนได้สอบถามว่าเชิญใครบ้าง นายอดุลย์จึงไล่เรียงว่าเชิญอดีตนายกฯหลายคน โดยนายอานันท์ ปันยารชุน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบรับคำเชิญแล้ว ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนไม่ปรารถนาที่จะเชิญมา เพราะตนตั้งกลุ่มไทยไม่ทนที่ออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์มาตลอด แต่จะขอเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วย

“อดุลย์” จ่อพบ “อุ๊งอิ๊ง” ขอบคุณ “ทักษิณ” สร้างอนุสาวรีย์-มูลนิธิพฤษภาฯ

นายอดุลย์ กล่าวว่า ในวันที่ 5 พ.ค.นี้ จะมีการแถลงข่าวการจัดงานครบรอบ 30 ปี รำลึกพฤษภาประชาธรรม ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ตนขอพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เนื่องจากในปี 48 มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้สร้างอนุสาวรีย์รำลึกญาติวีรชนพฤษภา 35 เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ เตือนสติ ทุกคนทุกภาคส่วนของสังคม ว่าต้องอยู่อย่างสงบปราศจากความรุนแรง และไม่ให้เกิดการนองเลือดอีก และก่อตั้งมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม เพื่อทำหน้าที่จัดงานครบรอบทุกปี นี่คือสิ่งที่นายทักษิณได้ทำไว้ แสดงให้เห็นว่านายทักษิณมีเจตนาที่ดีต่อญาติวีรชน แต่วันนี้ท่านไม่อยู่ประเทศไทย เราจึงเห็นว่าจะไปกราบขอบคุณท่านโดยผ่าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว เพื่อขอบคุณในเจตนาที่ได้ช่วยเหลือจาก มติครม.ปี 2548 และเตรียมเชิญนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน มาร่วมงานด้วย

นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ เห็นว่าเป็นนายกฯที่ไม่เหมาะสมในการแก้ปัญหาบ้านเมือง และในฐานะผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยไม่ทน ที่เคลื่อนไหวขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จนสังคมเข้าใจตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมาะทำหน้าที่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่จะเชิญ พล.อ.ประวิตร เพราะหากยังจำได้เมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว เราเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาร่วมงาน แต่ท่านเพิกเฉยไม่ให้เกียรติ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร สั่งการให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร และประธานวุฒิสภา มาร่วมงาน นี่คือสาเหตุที่เราคิดว่าท่านมีน้ำใจต่อชาวพฤษภาประชาธรรมมาตลอด จึงเชิญท่านมาแทน พล.อ.ประยุทธ์ ตนขอบอกกล่าวผ่านสื่อก่อน และจะไปเชิญด้วยตนเอง

เมื่อถามว่า แนวทางที่จะให้ พล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นนายกฯสำรอง นายอดุลย์ กล่าวว่า จากการประเมินของภาคประชาชน และนักวิชาการ เห็นว่าวันนี้บ้านเมืองไม่มีทางออก พรรคการเมืองตั้งขึ้นเพื่อเข้าสู่อำนาจขายฝัน แต่ไม่เคยพูดว่าบ้านเมืองจะยุติความขัดแย้งอย่างไรทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ตน พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร เป็นคนตกยุคอีกไม่นานต้องไปจากโลกนี้ คนรุ่นใหม่คืออนาคต แต่การที่ท่านยังหวงอำนาจถามว่าความเสียหายเกิดขึ้นเท่าไหร่แล้ว โดยเฉพาะการปล่อยให้คนบาปอย่างนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนรัฐธรรมนูญจนชาติบ้านเมืองพัง

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า การที่ตนเรียกร้องให้พล.อ.ประวิตร มาเป็นนายกฯขัดตาทัพ เป็นเรื่องที่พล.อ.ประวิตรต้องคิดให้ลึกซึ้ง เพราะบัดนี้พล.อ.ประยุทธ สร้างความเสียหายให้ประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นขอถามพล.อ.ประวิตรว่าท่านต้องรับผิดชอบหรือไม่ เพราะท่านสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ 

“ผมเรียกร้องให้พล.อ.ประวิตรรับผิดชอบที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าสถานการณ์ปัจจุบันทุกพรรคจะช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง โดยลงมติให้พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง หรือหากพล.อ.ประยุทธ์มีสำนึกต่อบ้านเมืองก็ให้ท่านก้าวลงมาเอง ถ้าลงมาแล้วคนอื่นเป็นนายกฯซึ่งไม่ใช่พล.อ.ประวิตร จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ลำบาก เพราะท่านโจทก์เยอะสร้างความเสียหายมามาก วิธีที่ให้พล.อ.ประวิตรนั่งนายกสำรอง พล.อ.ประยุทธ์จะปลอดภัย” นายอดุลย์ กล่าว