"พิเชษฐ" ยอมรับคุย "แกนนำเพื่อไทย" ให้ข้อมูลซักฟอก "รัฐบาล"

           นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. กล่าวถึงการไปรับประทานอาหารร่วมกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อค่ำวันที่ 28 เมษายน โดยยอมรรับว่าได้พูดคุยถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ  โดยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด(มหาชน) หรือ อิสท์ วอเตอร์   ฐานะที่ตนเคยเป็นประธานกรรมการอิสท์วอเตอร์มาก่อน ส่วนกรณีที่บริษัทดังกล่าวแพ้ประมูลบริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง เป็นสิ่งที่ตนรับไม่ได้

           "ผมมาสอบถามทางพรรคเพื่อไทย ซึ่งเขาบอกว่ามีข้อมูลเพียงพอ และหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ ฝ่ายค้านมีข้อมูลหนักแน่น และตรงกับที่ทางเรามี ทางกลุ่ม 16 ส.ส.ก็จะยกมือสวนแน่นอน  เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย" นายพิเชษฐ กล่าว

           นายพิเชษฐ กล่าวด้วยว่ากรณีที่บริษัทอิสท์วอเตอร์แพ้คดีตนรับไม่ได้  เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ และอิสท์วอเตอร์ สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะบริหารโครงการอีสเทิร์น ซีบอร์ด ทั้งหมด และอิสท์วอเตอร์ ก็เป็นบริษัทลูกขอองการประปานครหลวง รู้เรื่องการประปาดี และหากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังสนับสนุนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่กำกับดูแลกรมธนารักษ์ ฐานะคนรับผิดชอบ  ตนยอมให้ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ  เช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หากไม่ทบทวนเรื่องดังกล่าว จะถูกยกมือไม่ไว้วางใจ เพราะนายกฯ เป็นผู้นำต้องรู้เรื่องว่าบริษัทวงศ์สยาม เป็นของใคร หากไม่ทบทวนจะถูกกล่าวหาว่ารับสินบนด้วย

         ทั้งนี้นายพิเชษฐ ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าที่ไปพบแกนนำพรรคฝ่ายค้านเพราะต่อรองผลประโยชน์ ระบุว่า "ผมอายุ อายุ79 ปีแล้ว ผมเอาประเทศชาติ ไม่เอาตัวบุคคล เพราะคนเดี๋ยวก็ตาย แต่ประเทศยังอยู่ กรณีที่รัฐบาลยังไปลงนามสัญญาต้องแตกหักกัน"