"2ขุนพลใต้" ค่ายปชป.มั่นใจสถานการณ์พรรคคลี่คลาย จับตานัดถกหลัง"ศึกกทม."

"2ขุนพลใต้" ค่ายปชป.มั่นใจสถานการณ์พรรคคลี่คลาย จับตานัดถกหลัง"ศึกกทม."

"2ขุนพลใต้" ค่ายปชป.มั่นใจสถานการณ์พรรคคลี่คลาย "นิพนธ์" ชี้นับถอยหลัง8เดือนกรรมการบริหารพรรคพร้อมทำหน้าที่สู้ศึกเลือกตั้ง ขณะที่"นายกชาย" เผยนัดถกหลัง"ศึกกทม."

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ หลังเกิดกรณีนายปริญญ์ พาณิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค โดยยืนยันว่า วันนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว หลังจาก นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้คำแนะนำ ทุกฝ่ายก็ต้องรับฟัง และไตร่ตรองให้ดี

ส่วนตัวคิดว่ากรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดนี้เหลือเวลาทำงานตามวาระอีกเพียงแค่ 8 เดือน ซึ่งช่วงระยะเวลาที่เหลือเราก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นในสภาฯ หรือไม่ ดังนั้น เราก็ต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง กรรมการบริหารพรรคต้องนำทัพไปสู่การเลือกตั้ง ให้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องพิสูจน์การนำพาพรรคของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็ประกาศพร้อมนำทัพพรรคประชาธิปัตย์สู้ศึกการเลือกตั้งครั้งต่อไป

"ทุกคนควรรับฟังคำแนะนำของคุณชวนที่เป็นผู้ใหญ่อยู่พรรคประชาธิปัตย์มานานกว่า 50 ปี ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอมรสุมอะไรมาก่อน และพรรคก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เรามีประสบการณ์ ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันทำงานเพื่อพรรค อีกไม่นานกรรมการบริหารพรรคก็จะมีวาระครบ 4 ปี ตามข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์ เวลาที่เหลืออยู่ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด ผมไม่อยากให้มีประเพณีว่าเวลามีปัญหา หัวหน้าพรรคต้องลาออก" นายนิพนธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ตอนนี้ก็ยังมีกระแสกดดันให้กรรมการบริหารพรรครับผิดชอบด้วยการลาออก นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรายอมรับฟังทุกความคิดเห็น ทุกคนมีอิสระเสรี แต่ทุกคนก็ต้องเห็นแก่พรรคด้วย และขอให้มั่นใจการนำพาพรรคของกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ เมื่อเลือกกรรรมการบริหารพรรคแล้วก็ต้องให้โอกาสดูแลการเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นตัวชี้วัด

นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่ยังคงมีกระแสกดดันให้กรรมการบริหารพรรคลาออก  โดยมองว่า ขณะนี้สถานการณ์ภายในพรรคเริ่มคลี่คลายลงแล้ว

ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบกับกรณีนี้น้อยมาก เพราะประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนชั่ว คนใต้เข้าใจดีว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

“ในส่วนของกรรมการบริหารพรรคคงจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. รวมทั้งตอนนี้เป็นช่วงปิดสมัยการประชุมสภาฯ ทำให้ส.ส.ทุกคนต้องลงพื้นที่ของตัวเอง คาดว่า เสร็จการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้ว น่าจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคต่อไป” รองหน.ปชป. กล่าว