ไม่ได้โม้ "พปชร." เปิดตัว "สมรักษ์" ชิง ส.ส.ขอนแก่น โว อีสานกระแสดีไม่มีตก

ไม่ได้โม้ "พปชร." เปิดตัว "สมรักษ์" ชิง ส.ส.ขอนแก่น โว อีสานกระแสดีไม่มีตก

"พปชร." เปิดตัว 22 ว่าที่ผู้สมัครส.ส. อีสาน "สมรักษ์" โผล่ ลงชิง ขอนแก่น เขต10 ไม่ได้โม้ กระแสพรรคดีไม่มีตก "สันติ" ย้ำ เป้า 150 ที่นั่ง "ชัยวุฒิ" เย้ย "พท." กองทุนหมู่บ้าน-30บาทรักษาทุกโรค เก่าแล้ว มั่นใจ คะแนนนิยมในพื้นที่ยังดีอยู่

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของ พปชร. ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน จำนวน 22 คน โดยก่อนเปิดตัว ทั้งหมดได้เข้าพบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ5 จังหวัด เพื่อรับโอวาท

ทั้งนี้ อดีตนักมวยชื่อดังหลายคน อาทิ นายทวี อัมพรมหา หรือ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย นายเจริญ ชูมณี หรือ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง เดินทางมาให้กำลังใจนายสมรักษ์ คำสิงห์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ขอนแก่น ที่เดินทางมาเปิดตัวด้วย 

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีสานตอนบน 22 คนดังกล่าวมาจาก 11จังหวัด ประกอบด้วย 

นายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. เลย 

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ น.ส.ปภาสิริ ศรีตะบุตร ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. หนองคาย 

นายอนุสรณ์  แกหลิ่ง ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. บึงกาฬ 

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ และ นางมารวย อุดมเลิศปรีชา ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. นครพนม 

นายสุรจิต สัตถาผล นายพจนารถ ธนะราช และ นายอภิลักษณ์ เคนไชยวงศ์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. สกลนคร 

นายชัย คูสกุลรัตน์ และนายสุรพงษ์ พลซื่อ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ 

นายสมรักษ์ คำสิงห์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น 

น.ส.ชุติมา โชติธนาจินดา นายธนวัฒน์ ขันธวิชัย และนายสุภีรภัทร ภูมิภักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี 

น.ส.ประภาลักษณ์ สิทธิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู 

นายกฤษณพงศ์ เจริญวานิช นางจริยา สีกงพลี นายประวัติ กองเมืองปักษ์ และ ส.อ. วิทน โชติเมืองปัก ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. มหาสารคาม 

น.ส. กัญจน์พร วงศ์เวไนย และนายเวียง วรเชษฐ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. ร้อยเอ็ด 

ไม่ได้โม้ \"พปชร.\" เปิดตัว \"สมรักษ์\" ชิง ส.ส.ขอนแก่น โว อีสานกระแสดีไม่มีตก

ขณะที่นายสันติ กล่าวว่า ผู้สมัครใหม่ของเราต้องไปกราบเรียนหัวหน้าพรรค ถึงความตั้งใจที่จะมาเป็นตัวแทนพี่น้องชาวภาคอีสานและได้ทำพื้นที่มาอย่างไร ส่วนเป้าหมายกวาดกี่ที่นั่งในอีสานนั้น ขณะนี้กำลังเริ่มดำเนินการ อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่าเราตั้งเป้าไว้ 150 ที่นั่ง โดยในภาคอีสานขอเวลาคัดกรองสมาชิก ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนการพัฒนาภาคอีสานในนามพรรคพปชร. ตอนนี้จะมาพูดว่าได้กี่ที่นั่งก็จะเร็วไปนิด เพราะเรายังมีเวลาอีก 10 กว่าเดือน ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งสอบถามพี่น้องชาวอีสานในการสนับสนุนเรา 

นายสันติ กล่าวว่า นโยบายที่กำลังจะออกมาจะต้องเป็นนโยบายที่จับต้องได้สามารถดำเนินการตามยุคสมัยให้ทัน กับนวัตกรรมและการพัฒนาประเทศและพัฒนาโลกที่เราจะต้องตามให้ทัน ที่สำคัญจะลงไปดู ไปเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในเรื่องของความรู้ความสามารถ และนวัตกรรมใหม่ๆ ของเยาวชน รวมถึงการนำบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยกันคิดขับเคลื่อน

ขณะเดียวกัน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาในภาคอีสานเราก็ชนะหลายเขต มีคะแนนนิยมดี แม้จะได้ที่ 2 ที่ 3 บ้าง แต่เชื่อว่าคะแนนนิยมของเรายังดีอยู่ เพราะรัฐบาลทำงานมาอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาในพื้นที่อีสานมาอย่างต่อเนื่องและเยอะมาก ตรงนี้เราจะพยายามไปประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ผ่านผ่านผู้สมัครของเรา ที่สำคัญวันนี้ประเทศไทยต้องมีการเจอเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน การแก้ปัญหาโควิด-19 ถือว่ารัฐบาลประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในระดับโลก การฉีดวัคซีนเข้าตามเป้าที่ตั้งไว้ ระบบรักษาพยาบาลของเราเข้มแข็ง จนวันนี้นำไปสู่การเปิดประเทศ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้ ถือเป็นผลงานที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมทำมาโดยตลอด เราเชื่อว่าตรงนี้จะส่งผลให้คะแนนของพรรคที่เสนอพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะเข้มแข็งและสามารถขยายจำนวนผู้สมัครและจำนวนส.ส.ของพรรคในอนาคตได้อย่างแน่นอน 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในภาคอีสานต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่า ส.ส.หลายคนเป็นเจ้าของพื้นที่หลายสมัคร คิดว่าประชาชนคนไม่ยึดติดกับนโยบายเก่าๆ เพราะตนเห็นผู้สมัครบางคนยังคงพูดถึงนโยบายกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นเรื่อง 20 ปีที่แล้ว มันจบไปแล้ว วันนี้ต้องพูดถึงอนาคตของคนอีสาน พูดถึงสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำ และพัฒนาจังหวัดในภาคอีสานหลายเรื่อง โครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนหนทาง แหล่งน้ำต่างๆ ถือเป็นหน้าที่ของสมาชิกพรรคที่จะไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาและได้เห็นถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ นายสมรักษ์ กล่าวว่า การเข้าพบ พล.อ.ประวิตรได้ขอให้ช่วยกันทำงาน ขอให้นำนโยบายของพรรคไปบอกกล่าวให้ประชาชนรับรู้ว่ากำลังทำอะไร 

มั่นใจว่าครั้งนี้ตนสามารถสู้กับผู้สมัคร ส.ส.พรรคอื่นได้ ชาวบ้านรู้แล้วว่าจะเลือกใคร และที่ผ่านมาลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้งที่ 10 จ.ขอนแก่น มาตลอด บอกได้ว่ามีสมรักษ์ ไม่มีแล้ง 

นายสมรักษ์ กล่าวว่า ที่ตัดสินใจลงสมัครในนาม พปชร. เนื่องจากที่ผ่านมานักการเมืองมีแต่ตีกัน มีแต่ความขัดแย้ง ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเท่าที่ลงพื้นที่กระแสของพล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ในพื้นที่ดีมาก คนเฒ่าคนแก่ชื่นชมที่นำความเจริญมาให้พปชร.ยังขายได้ แม้ในโซเชียลมีเดียจะเป็นอีกแบบ แต่ในความจริงคนชื่นชอบ กระแสในภาคอีสานของ พปชร.ไม่ได้ตก