"สุรพล" เฮ ชนะคดีแพ่ง "กกต." 70 ล้าน ปม แจกใบส้ม เล็ง ฟ้องผิด "ม.157" เพิ่ม

"สุรพล" เฮ ชนะคดีแพ่ง "กกต." 70 ล้าน ปม แจกใบส้ม เล็ง ฟ้องผิด "ม.157" เพิ่ม

"สุรพล" เฮ ชนะคดีแพ่ง "กกต." 70 ล้าน ปม เรียกค่าเสียหาย กรณีแจกใบส้ม จนหลุด "ส.ส." หลัง "ศาลฎีกา" ยกฟ้อง เคสทำบุญวันเกิด เผย ดีใจได้รับความเป็นธรรม ทวงศักดิ์ศรีกลับคืน ยัน บริสุทธ์ ไม่ได้ซื้อเสียง พร้อมลง "เลือกตั้ง" สีเสื้อ "พท." สมัยหน้า ทนาย เล็งฟ้อง ม.157 เพิ่ม

ผู้​สื่อ​ข่าว​รายงาน​ว่า​ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ 8 สมัย พร้อมนายปกป้องกลับวิเศษ ทนายความได้แถลงถึงกรณีศาลจังหวัดฮอด ต.หางดง อ.ฮอด พิพากษาคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ. 164/2562 และคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ พ. 23/2565 ลงวันที่ 20 เมษายนกรณีนายสุรพล ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเจ้าหน้าที่ รวม 14 คน เพื่อเรียกค่าเสียหายและเยียวยาฐานทำให้เสียชื่อเสียงภายหลังศาลฏีกาพิพากษายกฟ้องคดีบูชาเทียนเพื่อทำบุญวันเกิด จำนวน 2,000 บาท เมื่อกันยายน 2563 ไม่ใช่เป็นการซื้อเสียง หรือทุจริตเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2562 

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดฮอด ได้พิพากษาให้นายสุรพล ชนะคดีดังกล่าว โดยให้ กกต.จ่ายค่าเสียหายและเยียวยา รวมกว่า 64 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านบาท แต่ต้องรอกกต.จะขออุทธรณ์คดีดังกล่าวภายใน 1 เดือนหรือไม่ ถ้า กกต.ไม่อุทธรณ์ ต้องยื่นเรื่องไปยังกกต.และกรมบัญชีกลาง ในฐานะกำกับดูแลงบประมาณ กกต. ให้ชำระค่าเสียหายและเยียวยาตามศาลสั่ง หากกกต.ขออุทธรณ์ ต้องรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา วินิจฉัยคดีดังกล่าวตามลำดับ เนื่องจากศาลแพ่ง ได้ระบุว่า กรณี กกต.ได้วินิจฉัยให้ใบส้มแก่นายสุรพล ซึ่งเป็นนักการเมืองคนแรกที่ได้รับใบส้มดังกล่าว จน กกต.จัดเลือกตั้งใหม่ ส่งผลให้ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 8 แทนนายสรุพลก่อน น.ส.ศรีนวล ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพื่อเป็น ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้นายสุรพล ไม่ได้กลับมาทำหน้าที่เป็น ส.ส. ของเพื่อไทย หรือพรรคฝ่ายค้านอีก

นายสุรพล กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลเมตตาและให้ความเป็นธรรม จนชนะคดีดังกล่าว และภาคภูมิใจที่ได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา เพราะเพื่อไทยไม่ได้ซื้อเสียงหรือทุจริตเลือกตั้งตามข้อกล่าวหาส่วนตัวไม่อยากได้ค่าเสียหายและเยียวยาดังกล่าว แต่ต้องการเกียรติและศักดิ์ศรีคืนมาเท่านั้นเพราะไม่เคยทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่กลับถูกประชาชนบางส่วน ที่ไม่เข้าใจบอกว่าจะไม่สนับสนุนอีกแล้ว กลายเป็นตราบาปติดตัว จนต้องสู้คดีดังกลาวจนถึงที่สุด จนศาลฏีกายกฟ้องและศาลแพ่งให้ชนะคดีดังกล่าวอีก

“อยากฝากบอกประชาชน อำเภอสันป่าตอง อ.แม่วาง อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง ว่าผมบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ หลังพ้นตำแหน่ง ส.ส.ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอด ในนามส.ส.จิตอาสา เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ยืนยันขอลงสมัคร ส.ส.เพื่อไทยเหมือนเดิม เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอีกครั้ง เพราะประชาชนเข้าใจ ให้กำลังใจและมีเสียงตอบรับเช่นเดิม ทำให้มีความมั่นใจได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง” นายสุรพล กล่าว

ด้านนายปกป้อง กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องรอดูท่าที กกต. ก่อนว่าจะดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่ ถ้ายังดึงดันหรือดื้อรัน ไม่ยอมขอโทษหรือรับผิดชอบใดๆ อาจหารือกับทีมทนาย และพรรค เพื่อฟ้อง กกต. หรือผู้เกี่ยวข้อง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการวินิจฉัยให้ใบส้มแก่นายสุรพล ตามระเบียบกฎหมายซึ่งใช้เวลาพิจารณาให้ใบส้มนายสุรพล เพียงชั่วโมงเศษเท่านั้น ซึ่งศาลระบุว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ หรือส่อเจตนากลั่นแกล้งผู้สมัครได้รับความเสียหายดังกล่าว