ถอดรหัสสัญญาณ "ยื้อยุทธ์" กลชิงแต้มต่อ-จิ๊กซอว์การเมือง

ถอดรหัสสัญญาณ "ยื้อยุทธ์"   กลชิงแต้มต่อ-จิ๊กซอว์การเมือง

“รัฐบาลชุดนี้ครอบเทอมวันที่​ 23​ มี.ค.66​” ท่าทีกลางวงครม.ส่งสัญญาณ "ยื้อยุทธ์" อยู่ครบเทอม นำมาซึ่งการจับตากลเกม รวมถึงจิ๊กซอว์การเมืองหลังจากนี้

“รัฐบาลชุดนี้ครอบเทอมวันที่​ 23​ มี.ค.66​” ... วงประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นัดล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวน่าสนใจ

นอกเหนือจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะตรวจแถวเช็คเสียงรัฐบาล เตรียมพร้อมรับเปิดสภาในวันที่ 22 พ.ค.นี้ พร้อมขอความร่วมมือทุกฝ่าย... "อย่าขัดแย้ง อยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี และความเข้าใจ เพื่อเร่งผ่านกฎหมายสำคัญ" แล้ว

ในวงประชุมครม.ยังมีการพูดถึง “ไทม์ไลน์การเมืองรัฐบาล” ไล่มาตั้งแต่เปิดประชุมสภาสมัยสามัญปีที่ 4 ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่​ 22​ พ.ค.-18 ก.ย.2565 ต่อเนื่องถึงการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญปีที่ 4 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.2565-28 ก.พ.2566 ที่นับเป็นการตอกย้ำ การส่งสัญญาณ “ยื้อยุทธ์” ที่จะอยู่ครบเทอมในปี 2566

เมื่อรัฐบาลส่งสัญญาณทอดเวลาอยู่ยาวเช่นนี้ สิ่งที่จะต้องจับตาต่อคือ “จิ๊กซอว์การเมือง” หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็น “สมการการเมือง” ทั้งการ“ผุดพรรค” เพื่อปูทางสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ภาพของการ “ขบเหลี่ยม” ของกลุ่มก๊วนพี่น้อง “2 ป.” คือ“ป.ป้อม” ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ ป.ประยุทธ์ ยามนี้ยังคงต้องจับตา เพราะย่อมส่งผลไปถึงคณิตศาสตร์การเมืองในอนาคต

ขณะที่ “พรรคตัวแปร” บางพรรค ออกอาการมั่นอกมั่นใจว่า จะได้เป็นรัฐบาลในรอบหน้า ยามนี้จึงเดินเกมรุก บุกพื้นที่ กวาดส.ส.เข้าคอก แลกด้วยเค้กชิ้นใหญ่ โดยเฉพาะบางจังหวัดเกรดเอ ที่ถึงขั้นมีรางวัลล่อใจเป็น “1 โควตารัฐมนตรี” หากได้ ส.ส.ยกจังหวัด

ไม่ต่างไปจาก “กติกาเลือกตั้ง” อย่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่ยามนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญ โดยยังเหลือประเด็นที่เป็นไฮไลท์ 

นั่นคือ สูตรการเลือกตั้งขั้นต้น หรือ “ไพรมารี่โหวต” รวมถึงสูตรคำนวณ “ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์” ภายใต้กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

กลเกมภายใน กมธ.ยามนี้ ยังคงช่วงชิงจังหวะในการดันสูตร “เกลี่ย ส.ส.” โดยเฉพาะ “พรรคเล็ก” ที่พยายามทอดสะพาน"เปิดเกมฮั้ว" พรรคขนาดกลาง หรือ กมธ.ในขั้วรัฐบาล โดยเฉพาะภูมิใจไทย ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ยามนี้ยังสงวนท่าที เพื่อดันสูตรคำนวณ ส.ส.หารด้วย 500

โดยหวังลึกๆ ว่า หากพรรคขนาดกลางเอาด้วย โอกาสโหวตชนะใน กมธ.ก็ย่อมมีมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากจะดิ้นหนีสูญพันธุ์ได้สำเร็จแล้ว ยังเป็นเกมโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทย และเป็นการสกัด “แลนด์สไลด์” ได้อีกทางหนึ่ง

ขณะที่ พลังประชารัฐ รวมถึงพรรคที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับ “2 ป.” ที่ไม่ว่าจะสนับสนุน “ป.ประยุทธ์” หรือ“ป. ประวิตร” ก็จะสมประโยชน์ร่วมกันกับพรรคเล็กแบบวิน-วิน

ทว่า ยามนี้แม้รัฐบาลจะส่งสัญญาณ “ยื้อยุทธ์” ลากยาวไปจนถึงปี 2566 แต่ยังมี "ศึกใหญ่" ที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งการ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” หลังเปิดประชุมสภาในเดือน พ.ค.นี้

ต้องลุ้นว่า “บิ๊กตู่” จะเตรียมแผนรับมือกลเกมในสภา รวมถึงการแก้เกมสกัด “แผนล้มกระดาน” ที่เคยเกิดขึ้นในรอบที่แล้วอย่างไร

ยังไม่นับรวมประเด็น “เส้นตาย 8 ปี” ซึ่งฝ่ายค้านเตรียมยื่นตีความสถานภาพความนายกฯ ในเดือน ส.ค

ทั้งหมดทั้งมวลจึงต้องจับตากลเกมหลังจากนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่า ที่สุดแล้ว “จิ๊กซอว์การเมือง” ที่ถูกต่อออกมา จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร