“เพื่อไทย”เร่งดัน 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์สร้างกรุงเทพฯมั่งคั่ง

“เพื่อไทย”เร่งดัน 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์สร้างกรุงเทพฯมั่งคั่ง

“เพื่อไทย”เร่งดัน 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์สร้างกรุงเทพฯมั่งคั่ง พร้อมเดินหน้าผลักดันทุกมิติ ยกระดับวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้ประชุมผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 50 เขต เพื่อเตรียมพร้อมการผลักดันนโยบายกรุงเทพฯ มั่งคั่งที่พรรคได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะนโยบาย ‘50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์’ ซึ่งขณะนี้ได้ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคได้ลงพื้นที่ศึกษารายละเอียดทุกชุมชนใน 50 เขตทั้งหมดแล้ว 

โดยพบว่าในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 มีวิถีชีวิต อาหารการกิน หัตถกรรม ดนตรี และความเป็นอยู่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรม ซึ่งสามารถหยิบยกมาเป็นต้นทุนและต่อยอดให้เป็นรูปธรรม ใส่ความคิดรูปแบบที่แตกต่างให้เป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนได้แบบยั่งยืน สู่การสร้างความมั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ ได้ 
 

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ตัวอย่างการจากการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การทำขนมงาพอง จากวัฒนธรรมจีนในชุมชนย่านบางแค ปรับปรุงจากสินค้าเฉพาะเทศกาลตรุษจีนกลายเป็นขนมงาพองที่ขายได้ทั่วประเทศในทุกช่วงเวลา หรือ  ชุมชนบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายที่สืบทอดวิชาทำบาตรพระแบบดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่อยอดรังสรรค์ส่งประกวดจนได้รับรางวัลชนะเลิศ Innovative Craft Awards 2017 

ซึ่งเป็นการส่งเสริมสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านต่อยอดเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ใส่คุณค่า จนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งนโยบาย ‘50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์’ ของพรรคเพื่อไทย คือการนำต้นทุนทางวัฒนธรรมทุกอย่างที่มีอยู่ มาต่อยอดความความคิดไอเดียที่สร้างสรรค์ ร่วมกับความรู้และเทคโนโลยี เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้พี่น้องได้จริง

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ตัวอย่างการจากการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การทำขนมงาพอง จากวัฒนธรรมจีนในชุมชนย่านบางแค ปรับปรุงจากสินค้าเฉพาะเทศกาลตรุษจีนกลายเป็นขนมงาพองที่ขายได้ทั่วประเทศในทุกช่วงเวลา หรือ  ชุมชนบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายที่สืบทอดวิชาทำบาตรพระแบบดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่อยอดรังสรรค์ส่งประกวดจนได้รับรางวัลชนะเลิศ Innovative Craft Awards 2017 

ซึ่งเป็นการส่งเสริมสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านต่อยอดเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ใส่คุณค่า จนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งนโยบาย ‘50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์’ ของพรรคเพื่อไทย คือการนำต้นทุนทางวัฒนธรรมทุกอย่างที่มีอยู่ มาต่อยอดความความคิดไอเดียที่สร้างสรรค์ ร่วมกับความรู้และเทคโนโลยี เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้พี่น้องได้จริง

นางพวงเพ็ชร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าจากปรากฎการณ์ นักร้องดัง ‘มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล’ ผู้ปลุกกระแสวัฒนธรรมอาหารไทย ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ ซึ่งก็คือตัวอย่างของ soft power หรืออำนาจอ่อนที่สามารถชักจูงโน้มน้าวชาวต่างชาติ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก พรรคเพื่อไทยจึงเห็นควรให้ ส.ก.เร่งสำรวจผลจากซอฟต์เพาเวอร์ ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ เพื่อเป็นกรณีศึกษาในการพัฒนาส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ soft power อื่นๆต่อไป 

พร้อมสำรวจความเป็นไปได้ที่จะค้นหาและชูทรัพยากรอื่นในกรุงเทพ สร้างเป็น soft power ใหม่อาทิ อาหารไทย เช่นผัดไท ต้มยำกุ้ง หรือศิลปหัตถกรรมใดที่สามารถชูเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผลักดันให้เป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวกรุงเทพฯได้ในอนาคต

“ชุมชนเป็นเจ้าของต้นทุนวัฒนธรรม ‘50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์’ ของพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปส่งเสริมและเพิ่มมูลค่า ซึ่งพี่น้องประชาชนในชุมชนจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด เราจะช่วยกันผลักดัน สนับสนุนส่งเสริมในทุกมิติเพื่อให้พี่น้องในชุมชนได้ประโยชน์จากวัฒนธรรมอย่างคุ้มค่า เหมือนที่นักร้องดัง ‘มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล’ ผู้ปลุกกระแสวัฒนธรรมอาหารไทย ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ บนเวที Coachella 2002 จนทำให้ข้าวเหนียวมะม่วงโด่งดังระดับโลกแค่ข้ามคืน” ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก. พรรคเพื่อไทยกล่าว