'ในหลวง-พระราชินี' เสด็จฯ เปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 จังหวัดบึงกาฬ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นประธานร่วมกับประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและภริยา ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 จังหวัดบึงกาฬ
วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) เวลา 15.41 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี คณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จ
จากนั้น ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีกองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 , นายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ , รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ , ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดบึงกาฬ , รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 , ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จเป็นจำนวนมาก แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยัง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
ณ พลับพลาพิธี บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชปฏิสันถารกับ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา ซึ่งเดินมาจากฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังแท่นพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) พร้อมกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขณะนั้นพระสงฆ์ทั้ง 2 ประเทศเจริญชัยมงคลคาถาพร้อมกัน
ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน โดยมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 75 ปี ในเดือนธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศมีการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งสินค้าและการผ่านแดนของประชาชน ผ่านเส้นทางแม่น้ำโขงเป็นหลัก จึงมีการก่อสร้างสะพานขนาดใหญ่เชื่อมโยงสองประเทศหลายแห่ง ซึ่งสามารถสนับสนุนการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน ส่งเสริมสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศเป็นอย่างดี
สำหรับการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพัฒนาจังหวัดบึงกาฬและพื้นที่ใกล้เคียง รองรับความต้องการสัญจร และขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการค้าและเชื่อมโยงภูมิภาคอย่างยั่งยืน
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 นี้ เชื่อมระหว่างอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ราชอาณาจักรไทย กับเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นสะพานคานขึงคอนกรีตอัดแรง ความยาว 1,350 เมตร นับเป็นสะพานระหว่างประเทศแห่งแรกของไทยที่เลือกใช้รูปแบบนี้ ซึ่งผสมผสานระหว่างการใช้พื้นสะพานของสะพานคอนกรีตอัดแรง กับการใช้เสาหลักและเคเบิลของสะพานขึง เพื่อช่วยรับน้ำหนักของสะพาน โดยมีเสาหลักอยู่กลางแม่น้ำจำนวน 4 เสา มีระยะห่างระหว่างเสาหลัก 150 เมตร ซึ่งลดโอกาสที่จะมีสิ่งกีดขวางลำน้ำมาติดที่บริเวณเสาสะพาน รวมถึงรองรับการเดินทางโดยเรือขนส่งขนาดใหญ่ได้ในอนาคต เสาหลักของสะพานสำหรับยึดเคเบิล ได้รับแรงบันดาลรูปทรงของ "แคน" เครื่องดนตรีท้องถิ่นแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมร่วมของไทยและลาว รวมถึง สายเคเบิลที่เปรียบเสมือนสายใยแห่งความผูกพันประสานแผ่นดินสองฝั่งโขง
นอกจากนี้ ด้านเทคโนโลยี สะพานแห่งนี้ยังเป็นสะพานระหว่างประเทศแห่งแรกของไทย ที่มีการติดตั้งระบบเฝ้าติดตามพฤติกรรมของสะพาน (Bridge Health Monitoring System) เพื่อตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของสะพานระหว่างการใช้งานผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและช่วยยืดอายุการใช้งานสะพาน
ณ สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ฝั่งไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึก , นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตราไปรษณียากรที่ระลึกสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 และนายสุพล เจริญภูมิ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติ "สิริบึงกาฬราชพัสตรา" แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พร้อมกันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึก , นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตราไปรษณียากรที่ระลึกสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 และนางจิรภา เจริญภูมิ นายกเหล่ากาชากาดจังหวัดบึงกาฬ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติ "ขวัญมิ่งสองฝั่งโขง" แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
จากนั้น ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร









