กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน "กองทุนหทัยทิพย์" เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์ ถนนตรวจการณ์คู่ขนาน ชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหาร และผู้อำนวยการสำนักองค์ประธาน นำ พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหาบบก พร้อมคณะ เฝ้า เพื่อถวายรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมถนนตรวจการณ์คู่ขนาน ในความรับผิดชอบของ กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) และโครงการก่อสร้างที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) และหลุมหลบภัย ภายใต้โครงการสนับสนุน "กองทุนหทัยทิพย์" กองทัพบก อันเป็นภารกิจสำคัญในการสนองพระปณิธานฯ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนเป็นการสร้างความปลอดภัยและขวัญกำลังใจแก่กำลังพลแนวหน้าที่ปฏิบัติภารกิจในการรักษาความสงบพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยความแข้มแข็งต่อไป

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์

ในโอกาสนี้ พระราชทานเงินจากการระดมทุนผ่าน "กองทุนหทัยทิพย์" ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ แก่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก รวมเป็นเงิน 121,089,300 บาท ตามที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) และกองทัพบก (ทบ.) ได้ชี้แจงเพื่อรับการสนับสนุนงบประมาณ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการก่อสร้างฯ ดังกล่าว ภายใต้แผนการปฏิบัติงานของทั้ง 2 หน่วยงาน ดังนี้ 
 

กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ได้จัดทำแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างรั้วชายแดน และถนนตรวจการณ์คู่ขนาน รวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างเขตแดนที่ 52-59 ในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งติดต่อกับอำเภอกอมเรียง จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา โดยบริเวณดังกล่าวมีความเหมาะสมในการสร้างรั้วชายแดน เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบ เข้าถึงง่ายและไม่มีความขัดแย้งเรื่องเส้นเขตแดน สำหรับการดำเนินงานก่อสร้าง ได้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ

  • ระยะที่ 1 เป็นการก่อสร้างถนนตรวจการณ์ผิวจราจรลูกรัง กว้าง 5 เมตร รวมระยะทาง ประมาณ 8 กิโลเมตร  และก่อสร้างรั้วชายแดน ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร บริเวณหลักเขตแดนที่ 52-54
  • ระยะที่ 2 เป็นการก่อสร้างรั้วชายแดน บริเวณหลักเขตแดนที่ 54-59 ระยะทาง ประมาณ 6.7 กิโลเมตร จะเริ่มดำเนินการต่อเนื่องหลังจากเสร็จสิ้นระยะที่ 1 ต่อไป

สรุปค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างรั้วชายแดน และถนนตรวจการณ์ ทั้ง 2 ระยะ รวมเป็นเงิน 69,275,700 บาท

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์

ขณะเดียวกัน โครงการสนับสนุน "กองทุนหทัยทิพย์" กองทัพบก ได้จัดทำแผนงานก่อสร้างที่มั่นกำบัง (บังเกอร์ประเภทหลุมบุคคลคู่) ภายในฐานปฏิบัติการของหน่วยทหาร และก่อสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชนขนาดความจุ 40 คน จำนวน 10 แห่ง เพื่อใช้เป็นที่พักพิงในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ ซึ่งดำเนินการก่อสร้างฯ ในพื้นที่เสี่ยงภัยครอบคลุมทุกจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก่อสร้างฯ รวมเป็นเงิน 51,813,600 บาท
 

ปัจจุบันกองบัญชาการกองทัพไทย อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อพิจารณาดำเนินการก่อสร้างรั้วชายแดนในระยะต่อไป ในขณะที่ โครงการสนับสนุน "กองทุนหทัยทิพย์" กองทัพบก มีการขยายโครงการก่อสร้างที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) และหลุมหลบภัย ในพื้นที่เสี่ยง จึงขอการสนับสนุนด้านงบประมาณเพิ่มเติมในการดำเนินงานดังกล่าวต่อไป

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์

ทั้งนี้ การสนับสนุนโครงการก่อสร้างรั้วชายแดน พร้อมถนนตรวจการณ์คู่ขนาน ที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) และหลุมหลบภัยขนาดความจุ 40 คน จาก "กองทุนหทัยทิพย์" ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ ถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ ตามพระดำริฯ ของ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ ด้วยทรงตั้งพระทัยมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนภาครัฐ และเอกชนในการป้องกันและบรรเทาภัยคุกคามของประชาชนและประเทศชาติ ที่ก่อให้เกิดภยันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

กองทุนหทัยทิพย์ ภายใต้มูลมิธิจุฬาภรณ์ เป็นกลไกสำคัญในการรวมพลังของคนไทยทั้งชาติ เพื่อบรรเทา และสร้างความผาสุกร่มเย็นแก่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ผู้ประสงค์ร่วมสมทบสามารถบริจาคผ่าน ธนาคารกรุงเทพ สาขาหลักสี่พลาซ่า ชื่อบัญชี เงินกองทุนหทัยทิพย์ ประเภทบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 229-3-03266-6 และประเภทบัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี 229-4-29977-7 หรือสแกน QR Code ผ่านระบบ e-Donation ทั้งนี้ เงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : กองทุนหทัยทิพย์ LINE Official @hataitipfund หรือ สำนักงานกองทุนหทัยทิพย์ ชั้น 1 อาคารวิจัยเคมี สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โทร.0-2553-8616-19 ในวันและเวลาทำการ

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน เร่งสร้างรั้วชายแดน-บังเกอร์