ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันนี้ (29 ตุลาคม 2568) เวลา 19.18 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง(พระพันปีหลวง) ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมในพิธีฯ ด้วย
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระที่นั่งราชกรัณยสภา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชปฏิสันถารกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยัง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ที่หน้าพระโกศพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกราบ
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินไปยังมุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ด้านตะวันออก และด้านตะวันตก ทรงคม
แล้วประทับพระราชอาสน์ โดยพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ในช่วงเวลานี้ เป็นพระพิธีธรรมจาก วัดบวรนิเวศวิหาร สวดบทอภิธัมมัตถสังคหะ โดยใช้ทำนองสรภัญญะ และวัดสุทัศนเทพวราราม สวดบทโอฆาธัมมา, อาสวาธัมมา, สัญโลชนาธัมมา, เวทนาธัมมา โดยใช้ทำนองเลื่อน
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เป็นพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินี ที่เสด็จพระราชดำเนินมาถวายราชสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นประเทศแรก ด้วยทรงเคารพรักและทรงเทิดทูน ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ และตั้งพระราชหฤทัยมั่นในการทรงแบ่งเบาพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวไทยและชาวโลก
อนึ่ง เมื่อปี 2559 สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงเป็นประมุขต่างชาติพระองค์แรก ที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี มาเยือนประเทศไทย เพื่อถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเมื่อปี 2560 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันสะท้อนถึงน้ำพระราชหฤทัยและพระราชไมตรีของทั้งสองพระราชวงศ์ ที่มีความผูกพันแน่นแฟ้น
เมื่อพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมครบ 4 จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินไปทรงทอดผ้าไตรพระราชาคณะ 1 รูปที่ถวายอดิเรก และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 8 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ สวดประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานภัตตาหารเช้าและเพล กำหนด 100 วัน หรือตามกำหนดไว้ทุกข์ สำหรับการสวดพระอภิธรรม เป็นการนำเอาพระอภิธรรมในพระอภิธรรมปิฎก มาสวด เพราะคำสอนในพระอภิธรรมนั้น ล้วนเป็นคำสอนเพื่อให้คนที่มีชีวิตอยู่ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เป็นการบำเพ็ญกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ ทั้งยังเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาและจารีตประเพณีอีกส่วนหนึ่ง โดยยึดตามแนวทางที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปฏิบัติในคราวเสด็จไปเทศนาพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นหลักปฏิบัติ ซึ่งถือกันว่าเป็นบุญกุศลอันใหญ่หลวง
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาฌปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าวันละ 8 รูป รับพระราชทานฉันเพลวันละ 8 รูป และประโคมย่ำยาม กำหนด 100 วัน
อนึ่ง วันนี้ในพระบรมมหาราชวังเมื่อเวลา 10.42 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นประธานในพิธี พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รับพระราชทานภัตตาหารเพล
ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จในการนี้ด้วย
และเวลา 06.29 น. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นประธานในพิธี พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รับพระราชทานภัตตาหารเช้า ซึ่งเป็นพระพิธีธรรม จากวัดอนงคารามวรวิหาร 4 รูป และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 4 รูป
"พระพิธีธรรม" เป็นชื่อตำแหน่งของพระสงฆ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชาคณะผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในพระอารามหลวง คัดเลือกพระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาในพระอารามนั้น ทำการฝึกหัดสวดพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ โดยใช้ทำนองที่ต่างไปจากทำนองสวดศพบุคคลชั้นสามัญ ซึ่งแต่ละพระอารามมีทำนองเป็นของตนเอง ในปัจจุบันการสวดพระอภิธรรมแบบหลวงมี 4 ทำนอง คือ ทำนองกะ, ทำนองเลื่อนหรือทำนองเคลื่อน, ทำนองลากซุง และทำนองสรภัญญะ
นอกจากนี้ นายว็อล์ฟกัง คีสลิง (WOLFGANG KIESSLING) ชาวเยอรมัน พระสหายของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เดินทางไปถวายสักการะหน้าพระโกศพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นการแสดงความอาลัย ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท นายว็อล์ฟกัง คีสลิง รู้สึกซาบซึ้งในเอกลักษณ์ ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ได้ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาโดยตลอด











