พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระราชชนนีพันปีหลวง แม่ของแผ่นดิน

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อช่วยทะนุบำรุงปกป้องรักษาประเทศชาติ ทั้งด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม อนุรักษ์ผืนป่า-น้ำ ส่งเสริมการเกษตร ฯลฯ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
...เราเรียกแผ่นดินนี้ว่า "แผ่นดินแม่" เพราะแผ่นดินนี้เป็นที่เกิดและเลี้ยงดูคนไทยมากว่า 700 ปี ควรที่เราทั้งหลายจะบำรุงรักษาแผ่นดินให้คงความอุดมสมบูรณ์ไว้ ถ้าเรามัวแต่ตักตวงผลประโยชน์จากผืนดิน เช่น เอาแต่ตัดไม้ขายจนป่าสูญสิ้นไป ใช้ยาฆ่าแมลงและฆ่าวัชพืชจนดินเสียหมด หรือทิ้งของเสียสิ่งปฏิกูลลงไปในแม่น้ำลำคลองโดยไม่ห่วงใยแผ่นดินเลย
สักวันหนึ่งแผ่นดินแม่คงตายจากเราไปโดยไม่มีวันหวนกลับคืนมา คงเหลือไว้ซึ่งพื้นดินที่แห้งแล้ง สิ้นสภาพจากการเป็นดินที่จะทำการเพาะปลูกได้...
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ เมื่อ วันที่ 11 สิงหาคม 2535
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อช่วยทะนุบำรุงปกป้องรักษาประเทศชาติ ทั้งด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม อนุรักษ์ผืนป่า-น้ำ ส่งเสริมการเกษตร ฯลฯ
ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำริสำคัญ ๆ ไว้มากมาย ด้วยทรงหวังให้ปวงชนชาวไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และส่วนหนึ่งในพระราชกรณียกิจสำคัญที่คนไทยซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณ อีกทั้งยังเป็นที่เลื่องลือไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีอาทิ
ฉลองพระองค์ชุดไทยศิวาลัยกับสมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก
ราชินีแห่งไหมไทย ต้นแบบอนุรักษ์ผ้าไทยดังไกลไปทั่วโลก
เมื่อปี พ.ศ.2503 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีกำหนดการที่จะตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป และประเทศสหรัฐอเมริกา รวม 15 ประเทศ
ทรงมีพระราชดำริว่า แม้เราจะมีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมในการแต่งกายของเราเองอยู่แล้ว แต่สตรีไทยก็ยังไม่มีเครื่องแต่งกายชุดประจำชาติ จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้ผู้ที่เชี่ยวชาญในการออกแบบเครื่องแต่งกาย คิดปรับปรุงแบบเสื้อที่สตรีไทยแต่งกันมาแต่โบราณกาลให้ทันสมัย เพื่อทรงใช้เป็นชุดไทยประจำชาติในระหว่างที่เสด็จฯ ไปทรงเยือนต่างประเทศครั้งนั้น
ในช่วงเวลานั้น ทรงให้ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ปิแอร์ บัลแมง ออกแบบ ทรงแนะนำผ้าไหมและการปักประดับ โดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อใช้เป็นฉลองพระองค์ในงานเสด็จฯ ประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้ทั่วโลกชื่นชมเป็นอย่างมาก ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สตรีแต่งกายงดงามที่สุดในโลก (ปี พ.ศ.2503, 2507) อีกทั้งหอเกียรติคุณแห่งสหรัฐอเมริกา ยกย่องให้เป็น 1 ใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก
และทรงเป็นต้นแบบ ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยจักรพรรดิ์
มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ รวมศิลป์แผ่นดิน
ศิลปาชีพ เกิดขึ้นเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงงานช่วยเหลือประชาชนในชนบทอย่างใกล้ชิด ด้วยความละเอียดและประณีตของพระองค์ ได้ทรงสังเกตเห็นว่า หัตถกรรมพื้นบ้านที่มีอยู่ในท้องถิ่นต่าง ๆ นั้น ล้วนแต่มีคุณค่าและมีความงดงามซ่อนอยู่ อันเป็นเอกลักษณ์ประจําในแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องจักสาน เครื่องปั้นดินเผา ที่ชาวบ้านทําขึ้นใช้เองในการดํารงชีวิต ด้วยสายพระเนตรที่กว้างไกล จึงทรงเห็นว่า ถ้าได้ส่งเสริมและพัฒนางานด้านศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านอย่างจริงจังแล้ว จะเกิดประโยชน์ถึง 2 ทาง คือ ประการแรก ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวบ้าน และสอง เป็นการอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้านโบราณ อันเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป
จึงทรงก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2519 ปัจจุบัน มูลนิธิฯ มีศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 300 แห่ง โอบอุ้มช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถส่งลูกหลานได้เรียนหนังสือและครอบครัวมีชีวิตที่ดี เป็นการขยายโอกาสและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ราษฎร ด้วยผลิตภัณฑ์อันวิจิตรบรรจงที่ยังคงสืบสานวัฒนธรรมอันเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศชาติตลอดไป
และเมื่อครั้งงาน ศิลป์แผ่นดิน ที่จัดโดย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พ.ศ.2549 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชดำรัสว่า
"...ไปดูครั้งแรกตกตะลึง ไม่เคยคิดว่าเด็กศิลปาชีพของข้าพเจ้าที่เลือกมาจากหมู่บ้านจากครอบครัวที่ยากจนที่สุด เห็นเขามีลูกเยอะและยากจน อยากจะแบ่งเบาภาระ ตอนนั้นยังคิดไม่ได้ถึงเดี๋ยวนี้ ให้หัดมาทอผ้า แกะสลัก ให้เงินประจำวัน ปรากฏว่าเขามุมานะที่จะทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ข้าพเจ้าเองไม่คิดเลยว่าคนไทยเราซึ่งจบ ป. 4 บางคนไม่ถึงด้วย จะออกมาเป็นศิลปินระดับโลก ชาวต่างประเทศมาดูแล้วอ้าปากค้างเลย..."
โขนพระราชทาน
มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ จัดฝึกอบรมงานศิลป์ 23 แผนก อาทิ แผนกคร่ำ, แผนกถมทอง, แผนกทอผ้าไหม, แผนกแกะสลักไม้, แผนกปั้น, แผนกสานย่านลิเภา, แผนกตกแต่งด้วยปีกแมลงทับ ฯลฯ ยังมีงานปักเส้นไหมโบราณขนาดใหญ่ งานเครื่องประดับ รวมถึงจำลองพระที่นั่งพุดตานคร่ำทอง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นงานฝีมือชั้นสูงอันวิจิตรงดงาม ปัจจุบันโรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดา ยกสถานะขึ้นเป็น สถาบันสิริกิติ์ เมื่อปี พ.ศ.2553 จากโรงฝึกผลงานของลูกหลานชาวนาชาวไร่
ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ศึกษาค้นคว้า การแสดงโขน ตามแบบโบราณราชประเพณี พร้อมฟื้นฟูองค์ความรู้ในการสร้างเครื่องแต่งกายโขนให้งดงามตามธรรมเนียมเดิม เพื่อจัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนละครขึ้นใหม่ ตลอดจนพัฒนาศิลปะการแสดงหน้าโขนละครให้มีความร่วมสมัย โขนพระราชทานเรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกพรหมาศ เมื่อ พ.ศ.2550 จึงเป็นปฐมบทแห่งโขนพระราชทานที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความชื่นชมในเรื่องความงดงามของเครื่องแต่งกาย ความวิจิตรตระการตาของฉากและเทคนิคต่าง ๆ นำไปสู่การแสดงโขนพระราชทานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
บ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการพระราชดำริฯ
"...พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า..."
พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่แสดงถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทรงงานด้านการอนุรักษ์ป่าซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ เพื่อสนับสนุนการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ช่วยให้พสกนิกรชาวไทยมีน้ำเพียงพอต่อการดำรงชีพและทำการเกษตร แสดงให้เห็นถึงความใส่พระราชหฤทัยด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงทรงจัดตั้ง โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ที่แรกที่บ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2534
เพื่อให้คนกับป่าอยู่ด้วยกันได้โดยไม่เกิดการทำลาย และต่อยอดไปอีกหลายพื้นที่ เช่น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านอุดมทรัพย์ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร, บ้านหนองห้า อ.เชียงคำ จ.พะเยา, ดอยฟ้าห่มปก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ฯลฯ
ทรงขอ ‘ป่าเสื่อมโทรม’ ที่ไม่เหลือสภาพความเป็นป่าอีกแล้วจากกรมป่าไม้ นำมาจัดสรรพื้นที่ให้กับคนยากจนที่ไม่มีที่ทำกินได้เข้าไปอยู่อาศัย แก้ปัญหาการตัดป่า ถางป่า เผาป่า เพื่อทำไร่เลื่อนลอยไปเรื่อย ๆ
ทรงให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรผลัดกันมาสอนการทำนาแบบขั้นบันได การปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกไม้ผลแบบผสมผสาน รวมถึงทดลองปลูกพืชเมืองหนาวให้กับ ‘คนในบ้านเล็ก’ ที่อยู่อาศัยใน ‘ป่าใหญ่’ ได้ปลูกพืชเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ มีระบบหมุนเวียนในการปลูก
ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ
"...ขาดทุนของฉัน คือกำไรของแผ่นดิน..."
พระราชดำรัสเมื่อครั้งเปิดโครงการ ฟาร์มตัวอย่าง ที่บ้านแม่ตุงติง พ.ศ.2540
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและนักเรียนโรงเรียนบ้านขุนแตะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2540 ทรงได้รับทราบถึงความลำบากของราษฎรที่บ้านขุนแตะ จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง ฟาร์มตัวอย่าง ขึ้น โดยดำเนินงานในลักษณะเป็นศูนย์สาธิตและส่งเสริมด้านการเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ อาทิ ไก่ เป็ด นกกระทา ปลา กบ ผึ้งและแกะ การเพาะเห็ด และปลูกไม้ใช้สอย คือ ยูคาลิปตัสและสะเดา ด้วยการจ้างแรงงานราษฎรในหมู่บ้านที่มีฐานะยากจน และจากหมู่บ้านใกล้เคียงมาสร้าง ‘ธนาคารข้าว’
ทอดพระเนตรฟาร์มตัวอย่างบ้านขุนแตะ
และในปีเดียวกันที่บ้านแม่ตุงติง อ.สะเมิง เชียงใหม่ สืบเนื่องมาจากการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ไม่มีงานทำหลังจากบำบัดและเลิกยาเสพติด ทรงจัดตั้งฟาร์มตัวอย่าง ส่งเสริมการปลูกพืชผัก พันธุ์ไม้ผลชนิดต่าง ๆ เลี้ยงปศุสัตว์ เป็ด ไก่ หมู และเลี้ยงปลา จนโครงการได้พัฒนาต่อเนื่องกระจายไปทั่วประเทศ
ปัจจุบันโครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชดำริ เกิดขึ้นทั่วประเทศ กลายเป็นต้นแบบอาหารยั่งยืน สนับสนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เมื่อช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำที่ดินในโครงการฟาร์มตัวอย่าง ทั้ง 30 ฟาร์ม จากจำนวน 61 ฟาร์ม ใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ มาใช้สนับสนุนการจ้างงาน ภายใต้ ‘โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19’ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้มาหล่อเลี้ยงครอบครัวในช่วงที่เกิดสถานการณ์ยากลำบากในการใช้ชีวิต
ยังมีโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ที่ทรงก่อตั้งและต่อยอดขยายไปยังท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินไทย อาทิ
- โครงการป่ารักน้ำ ก่อตั้งปี 2525 ที่บ้านถ้ำติ้ว จ.สกลนคร
- โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง (บนพื้นที่สูง)
- โครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย
- โครงการปะการังเทียม
- โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่าง
- โครงการแพทย์พระราชทาน
- โครงการแขนขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่
ฯลฯ
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ข้อมูล: www.rdpb.go.th/th/Projects, www.royaloffice.th











