สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นหนึ่งในพระราชพิธีโบราณ เป็นพิธีกรรมเกี่ยวข้องกับการเกษตร อาชีพหลักของผู้คนในยุคนั้น พระเจ้าแผ่นดินทรงมีจุดมุ่งหมายในทางที่จะสร้างขวัญกำลังใจแก่ราษฎร

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ  พ.ศ. 2447 สมัยรัชกาลที่ 5

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพิธีทางพราหมณ์ ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย กระทำสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นแห่งการเพาะปลูก

ส่วนพระราชพิธีพืชมงคล ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาพุทธเพื่อความเป็นสิริมงคล ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ  

นอกจากการปรับเปลี่ยนพิธีกรรมแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้หัวเมืองนอกราชธานี จัดพระราชพิธีแรกนาขวัญด้วย ได้แก่ กรุงเก่า (พระนครศรีอยุธยา) เพชรบุรี ซึ่งมีพิธีแรกนามาแต่เดิม เมืองนครศรีธรรมราช เมืองไชยา (สุราษฎร์ธานี) สองเมืองนี้เป็นเมืองมีพราหมณ์ โดยพราหมณ์เป็นผู้ประกอบพระราชพิธี ขณะที่เมืองสุพรรณบุรีอีกเมืองหนึ่งที่มีแรกนาอยู่ก่อนแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกระดับให้มีพิธีกรรมหลวงเข้าไปเกี่ยวข้อง

สถานที่จัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในพระนคร เมื่อครั้งอดีตมีการจัดหลายแห่ง ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีการจัดพระราชพิธีที่บริเวณ 'ทุ่งส้มป่อย' ซึ่งก็คือบริเวณที่ตั้งพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน อดีตที่ตั้งสวนสัตว์ดุสิต และอดีตพื้นที่สนามม้านางเลิ้ง เหตุที่เรียกทุ่งส้มป่อย เพราะมีต้นส้มป่อยไม้เลื้อยมีหนามขึ้นอยู่ทั่วไป ใช้เป็นสถานที่ปล่อยให้ช้างหลวงหากิน

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

เจ้าพระยาพิไชยญาติ (ดั่น บุนนาค) พระยาแรกนา พ.ศ.2474

บริเวณท้องสนามหลวง สมัยรัชกาลที่ 7

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ทั้งที่ 'ทุ่งปทุมวัน' และต่อมาย้ายไปที่ 'ทุ่งศาลาแดง' บริเวณสวนลุมพินีในปัจจุบัน ชื่อ 'ศาลาแดง' มาจากในอดีตพื้นที่แถบนี้เป็นนาหลวงแหล่งปลูกข้าวสำหรับราชสำนัก 

ในปี พ.ศ. 2436 ชาวเดนมาร์กขอพระราชทานสัมปทานสร้างรถไฟสายสมุทรปราการ หรือสายปากน้ำแล่นผ่านบริเวณทุ่งนาแถบนี้ จึงได้สร้างสถานีรถไฟเป็นศาลาสำหรับให้ผู้โดยสารนั่งรอรถไฟ มีหลังคาสีแดงโดดเด่น จึงเรียกกันว่า 'ทุ่งศาลาแดง'

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญของการปลูกข้าวซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจและพระราชทานกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ขยายพื้นที่ทำนาหลายแห่ง โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองสร้างระบบชลประทานเพื่อการเกษตร นอกจากนี้โปรดเกล้าฯ ให้มีการทำนาหลวงที่ 'ทุ่งพญาไท' อย่างจริงจัง มีการทำสวน ปลูกผักและเลี้ยงไก่ 

แต่เดิมทุ่งพญาไทนั้น เป็นท้องทุ่งกว้างขนาดใหญ่กว่า 1 พันไร่ อยู่ชานพระนคร ด้านเหนือจรดคลองสามเสน ด้านใต้จรดทางรถไฟสายแปดริ้ว ทิศตะวันออกจรดถนนพญาไท และทางตะวันตกจรดทางรถไฟสายโคราช จนเมื่อ พ.ศ. 2441 เมื่อเริ่มก่อสร้างพระราชวังดุสิต มีการตัดถนนซางฮี้ (ซังฮี้) ผ่านทุ่งพญาไทเชื่อมพระตำหนักพญาไท ที่สร้างขึ้นสำหรับแปรพระราชฐาน และโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในทุ่งพญาไท

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

พิธีแรกนาขวัญที่นาหลวง ทุ่งพญาไท สมัยรัชกาลที่ 5

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

พิธีแรกนาขวัญที่ทุ่งศาลาแดง ราว พ.ศ. 2452 สมัยรัชกาลที่ 5

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนาหลวงคลองพญาไท ครั้งแรกปรากฎในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 26 รัตนโกสินทร์ศก 128  พระราชพิธีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2452 ณ โรงพระราชพิธีในนาหลวง พระยาเวียงในนฤบาลเป็นผู้เริ่มนา มีพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ แต่ตัดขั้นตอนบางประการลง เช่น ไม่มีกระบวนอัญเชิญพระคันธารราษฎร์จากพระบรมมหาราชวัง ไม่มีการอัญเชิญเทวรูปจากเทวสถาน ไม่มีการเสี่ยงทายพระโค เป็นต้น ส่วนการไถดะ ไถแปร ไถกลบ ในการเริ่มนาเป็นไปในลักษณะเดียวกับการแรกนาแบบดั้งเดิม ภายหลังพระราชพิธีแล้วจึงเริ่มต้นทำนาหลวงคลองพญาไท

ในสมัยรัชกาลที่ 6 เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง สภาพดินฟ้าอากาศไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตข้าวในประเทศลดลง จนถึงกับต้องสั่งข้าวมาจากประเทศพม่า นาหลวงคลองพญาไทได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ผลผลิตมีน้อยไม่คุ้มค่าใช้จ่าย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  จึงโปรดเกล้าฯ ให้ พระคลังข้างที่ยุติการทำนาหลวงคลองพญาไทใน พ.ศ. 2456 และมอบพื้นที่ทุ่งพญาไทให้กรมอัศวราชปลูกข้าวเพื่อเลี้ยงม้า แต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมากระทรวงกลาโหมจึงขอเช่าไว้เพื่อฝึกหัดทหาร ปัจจุบันคือพื้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้านั่นเอง

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิธีแรกนาขวัญที่ท้องสนามหลวง (ทุ่งพระเมรุ) สมัยรัชกาลที่ 5

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

 พระโคเสี่ยงทายในพิธีแรกนาขวัญที่ท้องสนามหลวง พ.ศ. 2479

สมัยรัชกาลที่ 8

สามท้องทุ่งสำคัญ ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) พระยาแรกนา ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2455

การจัดงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ได้กระทำเต็มรูปแบบครั้งสุดท้ายในสมัยรัชกาลที่ 7 พ.ศ. 2479 ยังจัดพระราชพิธีที่ทุ่งพญาไท ต่อมาว่างเว้นไปเนื่องจากอยู่ในช่วงสงคราม

ในปี พ.ศ.2503 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ฟื้นฟูพระราชพิธีขึ้นใหม่ และย้ายมาที่ทุ่งพระเมรุ ในอดีตเรียก 'ทุ่งพระเมรุ' เนื่องจากใช้เป็นที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดินและพระบรมวงศานุวงศ์ เปลี่ยนชื่อเรียกจาก 'ทุ่งพระเมรุ' มาเป็น 'ท้องสนามหลวง' ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในท้องสนามหลวงส่วนใหญ่ เกิดขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพิธีสงฆ์ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งอยู่ใกล้กับมณฑลพิธี มีพระราชกระแสรับสั่งให้ปรับปรุงพิธีการบางอย่างให้เหมาะสมกับยุคสมัย

 

ที่มาภาพ : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ