“เอ็นไอเอ” ปลุกความตื่นตัว “สปอร์ตเทค” สู่โอกาสนวัตกรรมทำเงินของประเทศ

การแข่งขัน “ซีเกมส์ครั้งที่ 33” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงมหกรรมกีฬา แต่เปรียบเสมือนประตูที่พาเราก้าวสู่ยุค Sport Tech
ทั้งจากสนามแข่งขันที่คึกคัก การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเปลี่ยนโฉมประสบการณ์ของนักกีฬาและผู้ชม อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่กรุงเทพฯ และอีกหลายเมืองมีโอกาสที่จะฉายแววความเป็น “มหานครสปอร์ตเทค” เมืองที่กีฬา ไลฟ์สไตล์ และเทคโนโลยีถูกเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อพร้อมปูทางให้ธุรกิจนวัตกรรมกีฬาได้แจ้งเกิดอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย
หลายปีที่ผ่านมาการจัดแข่งขันกีฬาที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เทรนด์รักสุขภาพเพิ่มตามไปด้วย รวมทั้งประสบการณ์ในการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ และธุรกิจเวลเนสที่กำลังเติบโตขึ้นทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประทศที่กำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้ โดยมี สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การยกระดับอุตสาหกรรมกีฬาของไทย
และวันนี้ NIA จะพาทุกคนไปร่วมชมความตื่นตัวทางด้านนวัตกรรมกีฬา ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่จะได้เห็นแบรนด์ไทยในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงกระตุ้นให้การรักสุขภาพของคนไทยมีความสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย
เอ็นไอเอขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางนวัตกรรมกีฬาภูมิภาค
สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA โดย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า อุตสาหกรรมกีฬาและการท่องเที่ยว คือพลังสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่ที่จะช่วยเพิ่มการจ้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต สุขภาพ การเดินทางท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้อย่างเป็นระบบ
การพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศไทย ถูกกำหนดเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) โดย NIA มีเป้าหมายสนับสนุนและเสริมศักยภาพรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการกีฬาและการท่องเที่ยว
พร้อมยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมกีฬาและสุขภาพ ผ่านการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัป
กรุงเทพฯ มีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมกีฬาและสุขภาพได้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีสถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยชั้นนำ มีตลาดขนาดใหญ่รองรับ และมีผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์มากมาย
NIA มุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการนวัตกรรม สถาบันการศึกษา และภาครัฐเข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและขยายตลาดของธุรกิจนวัตกรรมกีฬาและสุขภาพ ภายใต้บทบาท ‘ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor)’
ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาศักยภาพ การให้ทุนสนับสนุน การสร้างโอกาสในการขยายตลาด ไปจนถึงการผลักดันให้นวัตกรรมไทยก้าวสู่เวทีโลก" ดร.กริชผกา กล่าว
ProEngy นวัตกรรมเติมพลังงาน แปลงร่างจากข้าวและพืชเศรษฐกิจท้องถิ่น
นวัตกรรมกีฬาของไทยไม่น้อยหน้าประเทศอื่นในโลก มีนวัตกรรมที่หลากหลายซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรักสุขภาพและนักกีฬา ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมแบรนด์ไทยที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ทางสุขภาพ
ช่วยให้ทุกคนสนุกกับออกกำลังกายได้มากขึ้น คือ ProEngy ผลิตภัณฑ์เสริมพลังงานที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกายอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับเสริมสร้างและฟื้นฟูสุขภาพทางกายและใจของนักกีฬา (Holistic Health and Recovery)
นายไกรยุทธ คงทวี เจ้าของแบรนด์ ProEnergy เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจว่า จากการเป็นนักกีฬารักบี้ฟุตบอลทีมชาติ จึงมีโอกาสได้เดินทางไปแข่งกีฬาในต่างประเทศ และพบว่านักกีฬาต่างชาติมีอาหารเสริมพลังงานที่ออกแบบมาเฉพาะทาง
จึงเกิดคำถามว่า ทำไมบ้านเราที่มีวัตถุดิบดีๆ มากมาย แต่ไม่นำมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมโภชนาการของคนไทยบ้าง และด้วยพื้นฐานที่เป็นทั้งนักกีฬาและผู้ประกอบการธุรกิจข้าวในจังหวัดสุรินทร์ จึงเริ่มต้นจากสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัว นั่นคือ "ข้าวหอมมะลิ" และนำมาต่อยอดด้วยกระบวนการป๊อปข้าวให้พองตัว
จากนั้นจึงผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นอื่น เช่น กล้วยตากจากพิษณุโลก สับปะรดภูแลและมะม่วงจากฉะเชิงเทรา โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาบูรณาการกับวิทยาศาสตร์อาหารและวิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
นายไกรยุทธ อธิบายถึงความสำคัญของอาหารเสริมพลังงานว่า ในระหว่างการออกกำลังกายหรือแข่งขัน ร่างกายจะสูญเสียพลังงาน ไกลโคเจน และน้ำจากเหงื่อ หากไม่ได้รับการเติมเต็มอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อศักยภาพในการแข่งขัน
โดยเฉพาะนักกีฬาอาชีพที่ต้องการโภชนาการที่แม่นยำในแต่ละช่วงเวลา ทั้งก่อนแข่ง ระหว่างแข่ง และหลังแข่งเพื่อการฟื้นฟูร่างกาย
สิ่งที่ทำให้ ProEnergy โดดเด่นกว่าคู่แข่งคือการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของเกษตรกร การพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยอาศัยวิทยาศาสตร์อาหารและวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างจริงจัง
รวมถึงการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย เช่น Energy Gel ที่มีความหนืดน้อย กลืนง่าย ไม่ต้องดื่มน้ำตาม นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงรสชาติที่ต้องอร่อยและเหมาะกับคนไทย ตามปรัชญาที่ว่า "อาหารต้อง Healthy และ Happy ไปพร้อมกัน”
ProEnergy ได้ร่วมสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยที่ลงแข่งขันในซีเกมส์ แม้จะไม่ได้เป็นสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการ แต่ได้ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์แก่นักกีฬาที่เป็นพันธมิตรโดยตรง ทั้งนักว่ายน้ำทีมชาติ นักกรีฑา และนักจักรยาน ซึ่งหลายคนเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงและมีฐานแฟนคลับ
นักกีฬาเหล่านี้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ ProEnergy ในการฝึกซ้อมและการแข่งขันจริง สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและมาตรฐานที่เทียบเคียงระดับสากล การได้รับความไว้วางใจจากนักกีฬาระดับชาติถือเป็นการยืนยันศักยภาพของนวัตกรรมไทยที่สามารถรองรับการใช้งานในเวทีการแข่งขันระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“นวัตกรรมกีฬาในไทยกำลังเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับเทรนด์โลกที่ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ทั้งด้านอาหาร อุปกรณ์กีฬา และเครื่องแต่งกาย
ทั้งนี้ มั่นใจว่าแบรนด์ไทยสามารถมีศักยภาพการแข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติได้ โดยเฉพาะด้านวัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาค เช่น รสมะม่วง สับปะรด และมะพร้าว ที่ต่างชาติไม่มี
และการได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ทั้งความรู้ด้านการตลาดและการพัฒนาธุรกิจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ ProEnergy สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้จะเป็นแบรนด์เล็กที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายด้าน ทั้งคู่แข่งแบรนด์ใหญ่ ต้นทุนการผลิตที่สูง และความท้าทายในการสร้างการรับรู้แบรนด์” นายไกรยุทธ กล่าว
อุตสาหกรรมกีฬาและเวลเนส ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของธุรกิจและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงคุณภาพชีวิตของทุกคนโดยตรง เพราะการออกกำลังกายนอกจากการ "เผาผลาญแคลอรี่" หรือ "สร้างกล้ามเนื้อ" แล้ว
ยังเป็นการลงทุนด้านสุขภาพระยะยาว การมีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่ผ่อนคลาย จะเป็นพลังงานในการใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ เมื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น
การออกกำลังกายก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนสามารถทำได้อย่างสะดวก สนุก มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยพร้อมก้าวเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมกีฬาและสุขภาพของภูมิภาค มาร่วมฟิตไปกับนวัตกรรมไทยและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่ดีกว่าไปพร้อมกัน.







