คณะเยาวชนโครงการ 'สานใจไทย สู่ใจใต้' รุ่นที่ 45 เรียนรู้แนวคิด Rapartment Store

คณะเยาวชนโครงการ 'สานใจไทย สู่ใจใต้' รุ่นที่ 45 เรียนรู้แนวคิด Rapartment Store

คณะเยาวชนโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 45 เรียนรู้แนวคิด Rapartment Store พร้อมต่อยอดธุรกิจในพื้นที่ภูมิลำเนา ขับเคลื่อนเศษฐกิจที่บ้านเกิด จุดประกายพลังเยาวชนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

3 ตุลาคม 2568 คณะเยาวชน โครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 45 จากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 320 คน ได้แก่ จังหวัดปัตตานี นราธิวาส สตูล ยะลา และสงขลา ได้เข้าเยี่ยมชมและเรียนรู้ศึกษาแนวทางขับเคลื่อนชุมชน ผ่านนิทรรศการแห่งความยั่งยืน Sustainability Expo 2025 จัดโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดตัวเอง ภายในงานน้องๆ ได้พบกับนิทรรศการความยั่งยืนจากหน่วยงานชั้นนำของประเทศ พร้อมเรียนรู้แนวทางการดำเนินการ Repartment Store เพื่อสร้างคุณค่าให้กับ "สิ่งของของนอกสายตา" เพื่อส่งต่อสิ่งของที่เราไม่ได้ใช้แล้ว ส่งต่อผู้ที่ยังต้องการสิ่งของนั้น ทำให้เกิดระบบหมุนเวียนทรัพยากรที่ทรงคุณค่า และก่อให้ประโยชน์กับทุกคนทั้งผู้ให้และผู้รับ ซึ่งสามารถนำของเหล่านั้นกลับมาใช้ประโยชน์ต่อได้ และยังเป็นการลดปริมาณของเหลือทิ้งให้กับโลก อีกทั้งยังได้รับความรู้ ประสบการณ์ และการสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นทำธุรกิจจากนักศึกษา โครงการ Beta Young Entrepreneur มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ได้มาแบ่งปันเรื่องราวการทำธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งในระหว่างทางมีการพัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดจนสามารถนำมาเป็นอาชีพได้ เพื่อประโยชน์ให้น้องๆ นำกลับไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้อย่างยั่งยืนต่อไป

คณะเยาวชนโครงการ 'สานใจไทย สู่ใจใต้' รุ่นที่ 45 เรียนรู้แนวคิด Rapartment Store

ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต เลขาธิการ มูลนิธิ "สานใจไทย สู่ใจใต้" ได้กล่าวถึงโครงการนี้ ว่าโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ โครงการนี้เกิดขึ้นมาก็เพื่อที่จะนำเยาวชน อายุ 15-19 ปี ขึ้นมาเรียนรู้เรื่องพหุวัฒนธรรมให้มาได้ทัศนศึกษาได้มาเข้าค่าย ได้ประสบการณ์ ทักษะการอยู่ร่วมกันของคนที่ต่างศาสนาเป็นคนไทยด้วยกัน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ เขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และคอยเกื้อกูลสนับสนุนกันได้อย่างดี ซึ่งก็จะเป็นประสบการณ์นำกลับไปพัฒนาภูมิลำเนาของเขา วัตถุประสงค์ของการที่นำพาน้องๆ มาเรียนรู้ในงาน SX2025 จะได้รับประโยชน์มาก เพราะเรื่องความยั่งยืนเป็นเรื่องของการที่จะให้เรียนรู้ว่า ทำอย่างไรที่จะรู้จักเรื่องของความพอเพียง ทำอย่างไรที่จะรู้ว่าสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรานั้นสามารถที่จะทำอย่างไรในการช่วยกันดูแล เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมีความสมดุล ยั่งยืน ก่อให้เกิดความรู้ เกิดความตระหนัก ในเรื่องของการที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ในทุกมิติ

"สำหรับกิจกรรมมีการบรรยายจากนักศึกษาโครงการ Beta Young ที่จะมาร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับน้องๆ เกี่ยวกับการทำมาค้าขาย ซึ่งเด็กก็ได้รับความรู้และนำไปต่อยอด รวมถึงเรื่องของ Repartment Store ซึ่งในปีที่ผ่านมาน้องๆ ในโครงการได้นำความรู้และแนวคิดของไปดำเนินการที่โรงเรียนของตนเอง โดยเด็กๆ ได้ไปรวมตัวกันทำกิจกรรม และประสบความสำเร็จ พวกเราก็ส่งของที่เราไม่ได้ใช้แล้วไปให้ พวกเขาก็ไปดำเนินการตามหลักการ Repartment Store ได้เงินกลับมาก็เอาไปซื้อพวกสิ่งของ เช่น ผ้าอ้อม ไปให้ผู้ป่วยติดเตียง ดำเนินกิจการสาธารณประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่นับถือพุทธ นับถือคริสต์ นับถืออิสลามก็ทำด้วยกัน อันนี้คือเป็นสิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้ ได้นำความรู้ ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ สิ่งสำคัญได้ทำงานร่วมกัน ไม่มีความรู้สึกแตกแยกต่อไป"   

คราวนี้เรามาฟังเสียงของน้องๆ จากปักษ์ใต้ในการเยี่ยมชมงานฯ ครั้งนี้ นางสาวอัลมาติน เหมเภอ โรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ จังหวัดสงขลา ได้บอกกล่าวความรู้สึกกับทีมงานว่า ยอมรับว่า การเดินทางครั้งนี้พวกเราเหนื่อยมาก แต่ด้วยโอกาสที่ได้รับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับน้องมาก ตื่นเต้นแต่พอมาดูงานทำให้เราเห็นโลกทัศน์ และพี่ๆ ทางกรุงเทพดูแลเราเป็นอย่างดี ทำให้เรากล้าที่จะแสดงออก กล้าถาม เจาะลึกและได้คำตอบที่เป็นประโยชน์มาก ได้ความรู้และประสบการณ์ที่ดี รู้สึกตื้นตันใจ กลับไปใต้น้องก็จะนำความรู้ไปต่อยอดกับครอบครัวและชุมชนที่น้องอยู่ โดยเฉพาะการนำของที่ไม่ใช้แล้วไปต่อยอดในทางสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ เช่น เสื้อผ้า หนังสือ ของเล่น ที่ไม่ใช้แล้ว นำไปขายเป็นของมือสอง หรือบริจาคให้กับส่วนอื่นๆ เป็นการลดสิ่งของในบ้านสร้างความเป็นระเบียบให้กับครอบครัวอีกด้วย

อีกหนึ่งคนที่จะพลาดไม่ได้กับแนวคิดของหนุ่มใต้ นายวรัญญู ขวัญจุล โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ที่ได้แนวคิดจาก นางสาวศยามล หมุกแก้ว Beta Young Entrepreneur รุ่นที่ 12 ปี 3 คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการทำธุรกิจเปิดร้านกาแฟในมหาวิทยาลัยในขณะที่เรียนอยู่ ว่า ผมต้องขอขอบคุณ พี่ศยามลที่ได้มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผม ในเรื่องการทำธุรกิจขายกาแฟ พี่เขาให้คำแนะนำดีมาก พูดถึงจุดเริ่มต้น อุปสรรค การปรับตัวในการทำธุรกิจ การทำบัญชีการพัฒนาสูตร ทำการตลาดอย่างสร้างสรรค์ สำหรับผมรู้สึกตรงใจมาก คิดว่าหากทำขายที่บ้านน่าจะขายดีพอสมควรเพราะทางใต้จะชอบกินกาแฟมาก คงเริ่มจากเปิดเป็นร้านเล็กๆ ขายในราคาไม่แพง คงจะช่วยกันทำในครอบครัว อีกอย่างผงกาแฟรสชาดอร่อยๆ ก็หาได้ไม่ยากในปัตตานี ผมอยากให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่ม และอยากมีกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง

ปัจจุบันเยาวชนที่ผ่านโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" มีจำนวนกว่าหมื่นคน กระจายอยู่ตามสาขาอาชีพต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน และได้จัดตั้งเป็นสมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ ทำกิจกรรมร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่แสดงถึงการพัฒนา การสร้างเครือข่าย ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป