บางจากฯ กับ ‘มัตจะ’ แห่งความใส่ใจ ระดับรางวัลจักรพรรดิญี่ปุ่น

กว่า 150 ปีก่อน ตระกูลมัตสึดะ ได้ริเริ่มบุกเบิกการปลูกชาในพื้นที่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประเทศญี่ปุ่น จากไร่เล็กๆ สู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวรายใหญ่ของประเทศในปัจจุบัน ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen) ซึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้ไร่ชาแห่งนี้ประสบความสำเร็จ คือการสืบทอดความรู้และความมุ่งมั่น โดยยึดหลักการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การเพาะปลูก เก็บเกี่ยว แปรรูปสินค้า ไปจนถึงการกระจายสู่ตลาดโลก กระทั่งในปัจจุบันมีการส่งออกชาสู่กว่า 35 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่สหรัฐ ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย โดยมี ร้านอินทนิล คัดสรรมัตจะ (Matcha) หรือชาเขียวบดละเอียดคุณภาพสูง มาให้คนไทยได้ลิ้มลองรสชาติ (ราชบัณฑิตยสภา กำหนดให้เรียก มัตจะ แต่โดยทั่วไป ชาวไทยจะคุ้นเคยกับการเรียก มัทฉะ มากกว่า)  

ไร่ชา ยามามะ มัตสึดะเอ็น ดำเนินกระบวนการแบบครบวงจร ตั้งแต่การเพาะปลูก แปรรูป ไปจนถึงการจำหน่าย ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างละเอียดในทุกขั้นตอน และตอบสนองต่อมาตรฐานระดับสูงได้อย่างมั่นใจ โดย ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของชาแต่ละใบ ทั้งกลิ่น รส สี และผิวสัมผัส ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือก การผสมใบชา ไปจนถึงการบดเป็นผงมัตจะ โดยปรมาจารย์ชา หรือ Tea Master ที่มีประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน และด้วยระบบการผลิตแบบครบวงจร บริษัทจึงสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ (traceability) ตั้งแต่ไร่ชาจนถึงมือผู้บริโภค อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการอย่างยั่งยืน โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001 สำหรับกระบวนการแปรรูป ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการผลิตชาคุณภาพสูงควบคู่กับการดูแลโลกใบนี้อย่างรับผิดชอบ 

‘ชา’ ที่เติบโตบนพื้นที่ที่ดีที่สุด 

สึโยมิ มัตสึดะ (Mr. Tsuyomi Masuda) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้เป็นทายาทรุ่นที่ 5 แห่ง ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen) ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของมัตจะจากไร่ชาจักรพรรดิ ในโอกาสที่เดินทางมาเมืองไทยและสาธิตการชงชาให้กับร้านอินทนิลสาขาใหม่ สัปปายะสภาสถาน (รัฐสภา) โดยมัตสึดะเล่าว่า ความลับของชาคุณภาพ เริ่มตั้งแต่การเลือกพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสม ซึ่งไร่ชามัตสึดะ ตั้งอยู่ที่มากิโนะฮาระ จังหวัดชิซูโอกะ มีภูมิอากาศและคุณภาพดินที่เหมาะสม รวมถึงอยู่ใกล้ทะเล จึงเป็นพื้นที่ในฝันของต้นชา ทั้งยังมีการดูแลเก็บเกี่ยวที่พิถีพิถัน ทำให้ได้ชาที่มีรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน 

ใส่ใจตั้งแต่ดิน ใบชา จนถึงผู้คน 

ความสมบูรณ์ของชายังมาจากการใส่ใจในคุณภาพดิน โดยไร่แห่งนี้เลือกใช้ปุ๋ยออร์แกนิก พร้อมกับพัฒนาวิธีการเกษตรอยู่เสมอ ทำให้ต้นชาดูดซึมสารอาหารที่เหมาะสม ใบชามีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อม โดยองค์ประกอบสำคัญของการปลูกชาที่สั่งสมมากว่า 150 ปี ของไร่มัตสึดะ ยังขยายไปสู่เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกชาหลายแห่งในญี่ปุ่น ให้ได้ต่อยอดการทำธุรกิจพร้อมสร้างเครือข่ายครอบครัวเกษตรกรผู้ปลูกชา  ผ่านการถ่ายทอดความรู้ เทคนิคการปลูกและรับซื้อใบชาคุณภาพ เพื่อผลิตชาให้ได้ตามมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงเพื่อผลิตชาให้ได้ปริมาณมากที่สุด แต่เป็นการผลิตชาคุณภาพดีที่สุดให้กับผู้บริโภคทั่วโลก  

รางวัลที่ยืนยันคุณภาพและความใส่ใจในใบชาทุกใบ 

ชาของ ยามามะ มัตสึดะเอ็น ได้รับการยอมรับจากหลายเวทีระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดอย่าง Emperor’s Cup รางวัลจักรพรรดิญี่ปุ่น ซึ่งมีไร่ชาที่ดีที่สุด 5 แห่งเท่านั้นที่ได้รับรางวัลนี้ และยังมีรางวัลคุณภาพระดับประเทศอย่าง "The Minister of Agriculture, Forestry and Fisheries Award" ซึ่งเป็นการประกวดผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรและประมงระดับพรีเมียมจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ที่จัดมานานกว่า 65 ปี สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความเป็นเลิศของมาตรฐานการทำไร่ชา และเป็นเครื่องยืนยันถึงความจริงใจที่ส่งต่อถึงผู้บริโภค ชาของไร่มัตสึดะจึงไม่ใช่เพียงพืชผลทางการเกษตร แต่เป็นผลงานศิลปะที่รังสรรค์ด้วยกาลเวลา ความรู้ และความรักในวัฒนธรรมการดื่มชาของญี่ปุ่น  

จากไร่ชาจักรพรรดิสู่ร้านอินทนิล 

คุณค่าที่ซ่อนอยู่ในใบชาทุกใบของไร่มัตสึดะ อินทนิล จึงเลือกนำ "มัตจะ" (ชาเขียวบดละเอียด) คุณภาพพรีเมียมจาก ยามามะ มัตสึดะเอ็น มาให้คนไทยได้สัมผัสรสชาติแท้ๆ ของชาจากญี่ปุ่น ผ่านการรังสรรค์เมนูมัตจะคุณภาพ 3 สไตล์ เพื่อลิ้มรสความหลากหลายของชาญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน นับตั้งแต่ Shizuoka Matcha (ชิซูโอกะ มัตจะ) ที่ให้รสชาติขมเล็กน้อย แทรกกลิ่นหอมโทนดอกไม้ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความละเมียดละไมแบบดั้งเดิม และ Uji Matcha (อุจิ มัตจะ) รสกลมกล่อม ดื่มง่าย พร้อมกลิ่นหอมโทนถั่วที่ขึ้นชื่อ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และ Ise Matcha (อิเสะ มัตจะ) ที่ให้รสอูมามิชัดเจน กลิ่นหอมครีมมี่ มีความลุ่มลึก ให้ผู้ชื่นชอบมัตจะได้เลือกดื่มด่ำชาที่มีวัฒนธรรมยืนยาวกว่า 150 ปี ในรสชาติที่ตรงกับสไตล์ของตัวเอง  

เรื่องราวที่ส่งต่อในมัตจะทุกแก้วของอินทนิล   

มัตจะที่เสิร์ฟทุกแก้วใน ร้านอินทนิล ไม่ใช่เพียงเรื่องของรสชาติ แต่คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่ไร่ชาในญี่ปุ่นที่ดูแลดินและต้นชาอย่างพิถีพิถัน เกษตรกรที่ร่วมแรงร่วมใจปลูกชา จนถึงทีมงานที่คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค หากมีโอกาสได้แวะร้านอินทนิล ลองเปิดใจสัมผัสมัตจะในสไตล์ที่ใช่สำหรับตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น Shizuoka, Uji หรือ Ise แล้วจะพบว่าเรื่องราวของความใส่ใจที่ถูกส่งต่อมากว่า 150 ปี จากไร่ชาระดับตำนานในญี่ปุ่น อาจเปลี่ยนให้วันธรรมดาให้พิเศษขึ้นได้อย่างที่ไม่เคยเป็น