'EY Thailand' จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี EY CFO Forum 2025

EY Thailand ผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบบัญชีและให้คำปรึกษาทางธุรกิจระดับโลก จัดสัมมนาใหญ่ประจำปี EY CFO Forum 2025 ในหัวข้อ "Driving Value Creation Forward" เจาะลึกบทบาทที่เปลี่ยนไปของผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (CFO) ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กร ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในปัจจุบัน โดยได้รับเกียรติจาก รัตนา จาละ Country Managing Partner กล่าวเปิดงานพร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนา ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

งานสัมมนาแบ่งออกเป็นสองช่วง โดยช่วงแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ "Navigating the Changes and Strategic Actions" เปิดการเสวนาโดย วราพร ประภาศิริกุล หุ้นส่วนและหัวหน้าสายงานตรวจสอบบัญชี ที่ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชีและการรายงานทางการเงินที่น่าจับตามอง ได้แก่ TFRS 17 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2568 สำหรับธุรกิจประกันภัย, TFRS 18 จะบังคับใช้ในปี 2571 เพื่อให้การนำเสนองบกำไรขาดทุนมีความชัดเจนขึ้น และ TFRS 19 ซึ่งให้ทางเลือกในการลดภาระในการจัดทำรายงานทางการเงินของบริษัทลูกที่ไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนฯ หรือไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ

ด้าน เกษม เกียรติเสรีกุล หุ้นส่วนและหัวหน้าสายงานภาษีอากร ได้ให้ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในแง่ภาษีที่สำคัญ ได้แก่ พ.ร.ก. ภาษีส่วนเพิ่ม ซึ่งเป็นการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำ 15% จากบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีรายได้ทั่วโลกตามเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีการวางแผนให้เครดิตภาษี (QRTC) ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีในรูปแบบเครดิตที่สามารถนำไปชำระภาษีแทนเงินสด หรือขอคืนเป็นเงินสดได้ เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และสุดท้ายคือการจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (US Tariffs) ที่เพิ่มสูงขึ้นและมีความผันผวนส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจส่งออกของไทย ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวรับมือกับนโยบายทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานการรายงานด้านความยั่งยืน โดย วิไลพร อิทธิวิรุฬห์ หุ้นส่วนและหัวหน้าส่วนงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน เผยว่าบริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล IFRS S1 (ข้อกำหนดทั่วไป) และ IFRS S2 (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้ยกระดับการประเมิน ESG Ratings ให้เป็นสากลมากขึ้น โดยจะเริ่มให้ FTSE Russell เป็นผู้ประเมินตั้งแต่ปี 2569 ซึ่งจะอิงจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ภายใต้การเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ ที่ CFO ต้องเผชิญ จักรพันธ์ อรรถพรมงคล หุ้นส่วน EY-Parthenon ได้แนะนำให้ผู้บริหารทางการเงินดำเนินกลยุทธ์แบบ Dual-focus strategy เพื่อสร้างสมดุลระหว่างรายได้และกำไรโดยทำการลดต้นทุน เพื่อปลดล็อกเงินทุน และนำไปลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนหลัก นอกจากนี้ บริษัทยังควรหาโอกาสในการขยายธุรกิจ พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจน นำไปสู่การปรับโมเดลธุรกิจให้เหมาะสมเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

สำหรับการเสวนาช่วงที่สอง ในหัวข้อ "Reimagine the Business: From Cost Optimization to Transformation" ผู้เชี่ยวชาญของ EY ได้กล่าวถึงการมองภาพรวมของธุรกิจอย่างรอบด้าน โดยใช้แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน (Cost Optimization) เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่า และใช้เทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย อรพรรณ เช็ง หุ้นส่วน EY-Parthenon ได้ฉายภาพให้เห็นถึงความท้าทายทั้งภายในและภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ พร้อมแนะนำแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ต้นทุนอย่างยั่งยืนในหลายมิติ อาทิ การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ต้นทุนต่ำลง, การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก, การปรับปรุงขั้นตอนและพัฒนาบุคลากร, การจัดตั้งศูนย์บริการร่วม (Shared Services) เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เป็นต้น 

ด้าน สุโชค สุขเกษม หุ้นส่วนสายงานบริการที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี อธิบายถึงการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน โดยให้เริ่มต้นจากส่วนที่สามารถสร้างผลกระทบสูงในวงกว้าง โดยเฉพาะงานที่มีการใช้บุคลากรหรือมีปริมาณธุรกรรมจำนวนมาก ซึ่งเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automation) จะช่วยลดภาระงานและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้ ทั้งนี้ การตัดสินใจลงทุนใน AI ควรมีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ชัดเจน เช่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง หรือวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้มั่นใจว่าการเลือกใช้เทคโนโลยีนั้นเหมาะสมกับเป้าหมายขององค์กรอย่างแท้จริง

มนต์ชยา กุลวงศ์ หุ้นส่วนสายงานบริการที่ปรึกษาธุรกิจ ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของธุรกิจค้าปลีกที่ประสบความสำเร็จในการนำ AI มาใช้ในรูปแบบ Full Automation เพื่อบริหารจัดการกระบวนการทำงานแบบ End-to-end ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การคัดเลือกสินค้าจนถึงการวางบิลและการจ่ายเงิน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 70-90% และลดการใช้บุคลากรลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ มนต์ชยา แนะนำว่าก่อนตัดสินใจลงทุนใน AI ธุรกิจควรประเมินว่าปัญหาจุดไหนที่ AI จะเข้ามาช่วยจัดการได้ดีที่สุด และควรมีการวางแผนการดำเนินงานในอีก 3-5 ปีข้างหน้าอย่างชัดเจน เพื่อให้การลงทุนและการปรับเปลี่ยนเป็นไปอย่างมีทิศทางและเกิดประโยชน์สูงสุด

ในช่วงท้าย ชินุมา ฮึกหาญ หุ้นส่วนสายงานบริการภาษีและธุรกรรมระหว่างประเทศ ได้เสริมข้อมูลในแง่มุมภาษีว่า แม้ส่วนใหญ่จะเป็นงานด้าน Compliance ที่ต้องใช้งบประมาณสูง แต่สามารถเปลี่ยนเป็นงานเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจได้ โดยใช้ Tax Intelligence Automation หรือระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยจัดการงานประจำ เพื่อให้ทีมภาษีของบริษัทมีเวลามุ่งเน้นการวางแผนกลยุทธ์มากขึ้น ขณะเดียวกัน ควรจัดให้ทีมมีการ Upskill และ Reskill เพื่อเพิ่มความสามารถเชิงกลยุทธ์ และสร้างประโยชน์ให้องค์กรในระยะยาว

จากโอกาสและความท้าทายรอบด้านสะท้อนให้เห็นว่าบทบาทของ CFO ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบริหารงบประมาณหรือการทำรายงานทางการเงิน แต่ต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมทุกมิติ เตรียมพร้อมและทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ อย่างลึกซึ้ง เพื่อช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนำพาองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

งาน EY CFO Forum 2025 ได้ผ่านไปอย่างงดงามและประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย จากจำนวนลูกค้าที่ให้เกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากกว่า 450 ท่าน ในนามของ EY ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมงานและขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนอันดียิ่งเสมอมา EY หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่านอีกในโอกาสต่อไป

อนึ่ง งาน EY CFO Forum เป็นงานสัมมนาประจำปีของ EY ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (CFO) ได้มารับฟังข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของ EY พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองเชิงกลยุทธ์ร่วมกัน เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยในแต่ละปี จะมีการคัดสรรหัวข้อที่หลากหลายและเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริหารได้อย่างแท้จริง