'แค๊ปสโตน' ชี้ 'ภูเก็ต' มุกงามอันดามัน 'Special Economic Zone' แห่งใหม่ของไทย

“ภูเก็ต” มุกงามแห่งอันดามันที่ยังคงเปล่งประกาย "แค๊ปสโตน" ชี้ศักยภาพในการก้าวสู่ “Special Economic Zone” แห่งใหม่ของไทย
ภูเก็ตยังคึกคักกับศักยภาพการลงทุนด้านที่พักอาศัยระดับโลก ด้วยอัตรายอดขาย ณ สิ้นปี 2567 โตสวนกระแสกว่า 201% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งในปี 2566 มียอดขายเพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งตัวเลขอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ของทั้งปี 2567 และครึ่งปีแรกของปี 2568 สูงถึง 79% ภูเก็ตจึงเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว หากคือศูนย์กลางการลงทุนที่ผสานคุณค่าแห่งการอยู่อาศัยเข้ากับผลตอบแทนที่ยั่งยืน รองรับด้วยโครงสร้างพื้นฐานทันสมัย การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศ และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่นักลงทุนจากทั่วโลกต่างแสวงหา
นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่วางวิสัยทัศน์การพัฒนาโครงการในแนวคิด ‘ไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้’ ยังคงมองเห็นความสดใสของภูเก็ตโดยเฉพาะย่านบางเทา ว่ามีศักยภาพในการพัฒนาที่แตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวหลักอื่นๆ ในเอเชีย
นายฐิติวัฒน์ กล่าวว่า ศักยภาพของภูเก็ตที่น่าสนใจเป็นเพราะปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย การเติบโตของกลุ่ม Digital Nomad นักลงทุนต่างชาติและผู้ย้ายถิ่นฐาน (Relocators) สอดคล้องกับเทรนด์การย้ายถิ่นฐานสู่เมืองชายฝั่ง (Coastal City Trend) ที่เกิดขึ้นทั่วโลกหลังโควิด โดยภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุน และผู้มีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยมจากทั่วโลก ที่แสวงหาคุณภาพชีวิตควบคู่กับการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยนโยบาย Visa LTR (Long-term Resident Visa) การขยายท่าเรือ/สนามบินล้วนเอื้อให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางใหม่
นอกจากนั้น ภูเก็ตยังเป็น Global Wellness & Coastal Lifestyle Destination จากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นเพียง Resort Destination ภูเก็ตได้ยกระดับสู่จุดหมายปลายทางด้านสุขภาพ การใช้ชีวิตระยะยาวและไลฟ์สไตล์ริมทะเลที่ทัดเทียมเมืองชั้นนำระดับโลก ซึ่งทำให้เกิดรูปแบบการลงทุนแบบ Hybrid Vacation Home บ้านพักตากอากาศที่สามารถอยู่อาศัยระยะยาวได้ พร้อมปล่อยเช่าในช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
“ภูเก็ตกำลังก้าวสู่การเป็น ‘ศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์และคุณภาพชีวิต’ โดยเฉพาะ ‘บางเทา’ ที่ถูกยกให้เป็น Sandbox ของไลฟ์สไตล์ระดับโลก ผสานการพักผ่อน การใช้ชีวิตระยะยาว และการลงทุนไว้ในระบบนิเวศเดียวกัน พร้อมโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ทั้งสนามบินนานาชาติ โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลมาตรฐานสากล และคอมมูนิตี้พรีเมี่ยมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ‘บางเทา’ เป็นจุดตัดของ Soft Power ไทย, การลงทุนในอสังหาฯ ระดับบน และโอกาสขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง”
อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในสายตาของภาครัฐมาโดยตลอดด้วยศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ของเมืองท่องเที่ยวที่มีอัตราเติบโตสูง ซึ่งเป็นที่ต้องการจากทั้งตลาดภายในประเทศและชาวต่างชาติ จากการเปิดตัวโครงการอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นหนึ่งในตลาดอสังหาฯ ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายด้าน อาทิ โครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต เพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2029–2031
การสร้างสนามบินนานาชาติภูเก็ตแห่งที่สอง (Andaman International Airport) ในจังหวัดพังงา โดยโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2027 และเปิดใช้ระหว่างปี 2030–2032 รองรับผู้โดยสารได้ถึง 22.5 ล้านคนต่อปี โครงการขยายถนนสำคัญและสร้างทางด่วน เช่น ขยายทางหลวงหมายเลข 4027 เป็น 4 ช่องจราจร และก่อสร้างทางด่วนเชื่อมสนามบินกับป่าตอง ซึ่งมีแผนดำเนินงานเสร็จภายในปี 2026–2030 เพื่อบรรเทาปัญหาจราจร นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาเพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่
1. Songklanagarind Hospital Phuket โรงพยาบาลเฉพาะทางขนาด 300 เตียงของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มูลค่าลงทุน 3.14 พันล้านบาท ระหว่างปี 2026–2029 รองรับบริการด้านการแพทย์ระดับสูง เพื่อผลักดันภูเก็ตสู่ศูนย์สุขภาพระดับภูมิภาค ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของ Phuket Health Sandbox project ซึ่งมีเป้าหมายผสานการยกระดับสาธารณสุขเข้ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต
2. Bumrungrad International Hospital Phuket โรงพยาบาลบูทีคระดับพรีเมียม เตรียมเปิดปลายปี 2026 พร้อมศูนย์วินิจฉัยและ Wellness Center แบบครบวงจร
3. โครงการศูนย์ประชุมฯ (International Convention Centre) อยู่ระหว่างการพิจารณาฟื้นโครงการในพื้นที่หาดไม้ขาว ซึ่งหากมีความชัดเจน การลงทุนนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนนักประชุม นักธุรกิจ และสร้างรายได้เสริมจากกิจกรรมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม แต่ละทำเลในภูเก็ตมีคาแรกเตอร์และศักยภาพรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่แตกต่างกันไป ซึ่งทำเลหาดบางเทา ตำบลเชิงทะเล มีศักยภาพโดดเด่นทั้งในมิติการลงทุน เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการอยู่อาศัย จากข้อมูลของซีบีอาร์อี พบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมทำเลชายฝั่งตะวันตกกลาง West Coast (Central) ซึ่งบางเทา-เชิงทะเลตั้งอยู่บนทำเลนี้ ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีคอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ 43% และคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ 66% เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในทำเลอื่นๆ ขณะเดียวกันยังพบว่าโครงการคอนโดลักชัวรีบางแห่งในทำเลบางเทา-เชิงทะเล สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่าได้สูงถึง 9-10% หรือมีอัตราเช่าประมาณ 50,000-60,000 บาทต่อเดือน สำหรับห้องขนาด 50-60 ตร.ม.
นายฐิติวัฒน์ กล่าวว่า ทำเลบางเทา คือหนึ่งในทำเลทองของตลาดอสังหาฯภูเก็ต โดดเด่นเพียบพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทางที่สะดวกสู่สนามบินนานาชาติ และศักยภาพสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มั่นคง กลุ่มลูกค้าต่างชาติมีสัดส่วนกว่า 50% ขณะที่โครงการส่วนใหญ่ถูกซื้อเพื่อปล่อยเช่า รองรับความต้องการเช่าระดับพรีเมี่ยมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
“ทำเลบางเทา ถูกยกให้เป็น “ใจกลางเมืองยุคใหม่” ของภูเก็ต ด้วยศักยภาพรอบด้านที่ดึงดูดกลุ่มชาวต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยวแบบพักอาศัยระยะยาว ครอบครัว คู่รัก Expat และ Digital nomad ที่มีกำลังซื้อตั้งแต่ระดับกลางจนถึงสูง ทำให้บางเทากลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักลงทุนอสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่าหรือสร้างผลตอบแทนระยะยาว รองรับผู้เช่าที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สงบ สะดวก และ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ริมทะเลระดับพรีเมี่ยม” นายฐิติวัฒน์กล่าว
นายฐิติวัฒน์ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Real Estate) และฮอสพิทัลลิตี้ (Hospitality Real Estate) ว่าบริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ คุณภาพระดับลักชัวรี ทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียม ผสานประสบการณ์การพักอาศัยของทั้งสองรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและเทรนด์ตลาดยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์การอยู่อาศัย” มากขึ้น
ล่าสุดเปิดตัวโครงการเพย์ลา ภูเก็ต บางเทา (PEYLAA Phuket Bang Tao) มิกซ์ยูสคอนโดมิเนียมในรูปแบบ Branded Residence ที่เกิดจากความร่วมมือกับเครือโรงแรมระดับโลก เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างและไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย โดยจับมือกับเชนโรงแรม Global Brand เพื่อสร้างปรากฎการณ์ของการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่ไหนก็ได้ การดูแลสุขภาพ และการบริการที่มีคุณภาพ
“สำหรับการลงทุนในโครงการ Branded Residence ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพียงยูนิตที่พักอาศัย แต่ยังซื้อชื่อเสียงและมาตรฐานการออกแบบในระดับแบรนด์ชั้นนำของโลก ควบคู่กับการบริหารจัดการโดยมืออาชีพ และประสบการณ์อยู่อาศัยที่ต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เพียงแค่ “บ้าน” แต่เป็น Lifestyle Investment ที่เพิ่มมูลค่าได้ทั้งในด้านทุนและคุณภาพชีวิต”
สำหรับการจับมือกับเชนโรงแรมระดับสากล เป็นกลยุทธ์สำคัญที่สะท้อนศักยภาพและวิสัยทัศน์ของเราในการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้ตลาด ความร่วมมือนี้เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย — ความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้ของเรา เข้ากับคุณภาพการบริการที่มีมาตรฐานสูง (High Standards of Service), ระบบบริหารจัดการที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ (Operational Excellence), ความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก (Brand Trust & Recognition), ความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและสร้างประสบการณ์ผู้พักอาศัย (Design & Guest Experience Expertise) เพื่อสร้างประสบการณ์และคุณภาพที่เหนือความคาดหมาย พร้อมขับเคลื่อนมาตรฐานใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทยก้าวสู่เวทีสากล






