สงครามการค้าสหรัฐ - ทั่วโลก : 1 ส.ค. เส้นตาย 'ภาษีทรัมป์' กับทิศทางทองคำ

จับตา 1 ส.ค. นี้ ภาษีการค้าทรัมป์มาแน่ หากสหรัฐเคาะเก็บภาษีสินค้านำเข้าอัตราสูงแบบรายประเทศและรายสินค้า รวมทั้งหากการเจรจาการค้ายืดเยื้อจนเกินเส้นตาย 1 ส.ค. นี้ อาจดันทองคำวิ่งสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทางกลับกันหากสหรัฐบรรลุข้อตกลงกับประเทศคู่ค้าได้ ทองคำอาจย่อตัวลงสู่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินสถานการณ์ การค้าโลก ที่ทวีความตึงเครียด โดยเฉพาะกำหนดเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. นี้ สำหรับมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ เศรษฐกิจโลก และทิศทาง ราคาทองคำ การดำเนินนโยบายทางการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการปรับปรุงข้อตกลงและเงื่อนไขทางการค้ากับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ เป็นประเด็นที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิด
สหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้า 6 ประเทศคู่ค้าหลักเผชิญอัตราที่สูงขึ้น
ตามรายงานพบว่า จีน แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งเป็น 3 ประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันเหลือเพียง 6 ประเทศคู่ค้าที่ถูกพิจารณาปรับขึ้นภาษี โดยมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มอัตราภาษีสูงขึ้น
- บราซิล 50%
- แคนาดา 35%
- เม็กซิโก และสหภาพยุโรป (EU) 30%
- บรูไน และมาเลเซีย 25%
กลุ่มอัตราภาษีคงเดิม
- ไทย แอลจีเรีย แอฟริกาใต้ และเกาหลีใต้
กลุ่มอัตราภาษีลดลง
- ลาว พม่า กัมพูชา บังกลาเทศ ศรีลังกา อิรัก ลิเบีย ตูนิเซีย คาซัคสถาน มอลโดวา เซอร์เบีย บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา
กลุ่มที่บรรลุข้อตกลงการค้า
- สหราชอาณาจักร (UK) เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น
ส่วนประเทศไทยนั้น ล่าสุด พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไทยได้ยื่นข้อเสนอสุดท้ายประกอบการเจรจาภาษีให้กับสหรัฐไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา
ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ปรับขึ้นภาษีกับบางประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้ายังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก ท่ามกลางความพยายามในการกดดันให้ประเทศคู่ค้าหันมาเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่สหรัฐต้องการ นอกจากนี้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐอีกกว่า 100 ประเทศ คาดว่าทรัมป์จะส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีในวันที่ 1 ส.ค. นี้ ซึ่งอาจมีอัตราภาษีภาษีนำเข้า 10% ถึง 15%
สหรัฐ-EU: แนวโน้มสงครามการค้าและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
EU ถือเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และสหรัฐขาดดุลการค้ามากที่สุดอันดับ 2 รองจากจีน ในช่วง 90 วันที่ผ่านมาของการเจรจาต่อรองการค้าระหว่างสหรัฐและ EU คาดมีเงื่อนไขที่ตกลงกันไม่ได้ ทำให้ทรัมป์ต้องยื่นจดหมายที่ระบุอัตราภาษีนำเข้าสูงขึ้น เป็นการบีบบังคับให้ EU มีท่าทีอ่อนลงเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ซึ่ง EU พยายามเจรจาให้บรรลุข้อตกลงการค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการทำ สงครามการค้า ขณะเดียวกัน EU ก็พร้อมที่จะทำสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยเตรียมตอบโต้ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ มูลค่าราว 7.2 หมื่นล้านยูโร หรือ 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ถ้าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ จากการที่ EU มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และทั้ง 2 ฝ่ายมีการค้าระหว่างประเทศสูง ดังนั้น กรณีเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและ EU จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
เส้นตาย 1 ส.ค.: มาตรการภาษีเด็ดขาด แต่ยังเปิดช่องเจรจาการค้า
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่สหรัฐจะเจรจากับประเทศคู่ค้า ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. นี้ โดยสหรัฐอาจจะบรรลุข้อตกลงการค้าเพิ่มขึ้นอีก 1-2 ประเทศ อย่างไรก็ตาม โฮเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้ยืนยันว่า วันที่ 1 ส.ค. ถือเป็น Hard deadline หรือกำหนดเส้นตายที่แน่นอนสำหรับการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้า แม้ว่าจะเป็นเส้นตายที่ไม่มีการยืดหยุ่น แต่รัฐบาลสหรัฐยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับประเทศคู่ค้าต่อไป ซึ่งหมายความว่าการพูดคุยเพื่อหาทางออกยังสามารถดำเนินการต่อไปได้แม้จะมีการเก็บภาษีไปแล้วก็ตาม
ดีลภาษีจบไม่สวย อาจดันทองคำสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์
ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินว่าในท้ายที่สุด ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเลือกเก็บภาษีสินค้านำเข้าอัตราสูงแบบรายประเทศและรายสินค้า ส่วนการเจรจาการค้าคาดว่าจะยืดเยื้อและลากยาวหลังกำหนดเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งจะส่งผลให้ยังคงมีความไม่แน่นอนเรื่องภาษีนำเข้าของทรัมป์และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
จากมุมมองข้างต้น ทำให้ประเมินว่า ทองคำ จะกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หากสหรัฐและ EU ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ และ EU ใช้แผนตอบโต้ภาษีต่อสหรัฐ โดยฮั่วเซ่งเฮงคาดการณ์ไว้ ดังนี้
- กรณีปกติ: ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปที่ 3,450 ดอลลาร์
- กรณีดีที่สุด: ราคาทองคำคาดปรับขึ้นไปที่ 3,500 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน หากสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญคือ จีน และ EU คาดว่าจะมีแรงเทขายทองคำอย่างหนัก ซึ่งฮั่วเซ่งเฮงคาดการณ์ว่า
- กรณีปกติ: ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปที่ 3,200 - 3,250 ดอลลาร์
- กรณีเลวร้ายที่สุด: ราคาทองคำจะปรับลงไปที่ 3,120 ดอลลาร์







