งาน EARTH JUMP 2025 กสิกรไทยผนึกทุกภาคส่วน แนะยุทธศาสตร์รับมือโลกร้อน

งาน EARTH JUMP 2025 กสิกรไทยผนึกทุกภาคส่วน แนะยุทธศาสตร์รับมือโลกร้อน

งาน EARTH JUMP 2025 กสิกรไทยผนึกทุกภาคส่วน แนะยุทธศาสตร์รับมือโลกร้อน หนุนธุรกิจลงมือทำจริงสู่ความยั่งยืน ย้ำไทยยืนหนึ่งผู้นำการขับเคลื่อนในอาเซียน

งาน EARTH JUMP 2025 ซึ่ง ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่แล้ววันนี้ ระดมผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจระดับโลกและระดับประเทศ ให้แนวทางกลยุทธ์และความรู้ อัปเดตข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรับมือความแปรปรวนที่เกิดขึ้น โดยในวันแรกมีเนื้อหาที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โลกจะเกิดสภาวะแปรปรวนด้านเศรษฐกิจและสังคมแต่การขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนยังเดินหน้าต่อไป ประเทศไทยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเรื่อง Taxonomy ในอาเซียน และภาครัฐกำลังผลักดัน พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปีหน้า ในส่วนภาคเอกชนก็ยังมุ่งมั่นเดินหน้าเรื่องนี้ต่อเนื่อง แต่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ความชัดเจนของนโยบายและข้อบังคับต่างๆ รวมถึงแหล่งเงินทุนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ พร้อมทั้งกรณีศึกษาประเทศจีนที่นำ Taxonomy มาแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจนสำเร็จ และกรณีศึกษาจากประเทศเดนมาร์กที่สามารถ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลงได้พร้อมกับเศรษฐกิจที่โตขึ้นเกือบ 80% นอกจากนี้ยังมีมุมมองและข้อมูลอัปเดตเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทุกภาคส่วนเห็นพ้องกันว่ายังต้องเดินหน้าต่อ เพราะนี่คือกติกาเกมธุรกิจในโลกใหม่

งาน EARTH JUMP 2025 กสิกรไทยผนึกทุกภาคส่วน แนะยุทธศาสตร์รับมือโลกร้อน

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การจัดระเบียบโลกด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ไม่มีอเมริกาเป็นศูนย์กลาง หลายประเทศเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ในส่วนของประเทศไทย ภาครัฐกำลังผลักดัน พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปีหน้าเพื่อบังคับและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยมีมาตรการภาคบังคับเพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันด้วยระบบกลไกราคาคาร์บอน เช่น 1. ระบบซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) เพื่อบังคับการลดการปล่อยคาร์บอนจากแหล่งกำเนิด 2. การเริ่มเก็บ Carbon Tax ในบางธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมน้ำมัน พร้อมทั้งผลักดันมาตรการสนับสนุนโดยจัดตั้งกองทุนภูมิอากาศซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคประชาชน โดยภาครัฐก็ต้องไม่เพียงแค่ Talk the Talk แต่ต้อง Walk the Walk ด้วย เพื่อเป็นแบบอย่างความสำเร็จในการทำตามแผนงานที่เห็นผลจริง รวมถึงการพร้อมรับฟีดแบคจากภาคเอกชนเพื่อต่อยอดเป็นนโยบายสนับสนุนและช่วยเหลือที่แม้จะมีอุปสรรคและข้อจำกัดจากข้อกฎหมายอยู่บ้างแต่ภาครัฐก็ต้องตอบสนองให้เร็วที่สุด

งาน EARTH JUMP 2025 กสิกรไทยผนึกทุกภาคส่วน แนะยุทธศาสตร์รับมือโลกร้อน

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในโลกปัจจุบันที่มีความแปรปรวนตลอดเวลา เราต้องเผชิญกับความท้าทายและแรงกดดันหลายเรื่อง เช่น นโยบายของสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโตชะลอตัว การเข้ามาของ AI และที่สำคัญคือเรื่อง การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ส่งผลทำให้เกิดภัยพิบัติจากอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการรับมือมี 3 กลยุทธ์สำคัญที่ต้องทำ คือ 1. Health Check ตรวจสุขภาพตัวเองก่อน ว่าตอนนี้เราปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปเท่าไร 2. Commitment ตั้งเป้าว่าเราจะลดเท่าไร ในปีไหน และ 3. Solution คือการหาวิธีและหาเครื่องมือต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าที่ตั้งไว้ ธนาคารกสิกรไทย ไม่เพียงตั้งเป้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของเราเอง แต่ยังมุ่งมั่นช่วยเหลือลูกค้า เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ Net Zero พร้อมกัน ด้วยการสร้าง K-Climate Solutions ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบนิเวศ เพื่อนำไปสู่ Ecosystem ที่ยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย

งาน EARTH JUMP 2025 กสิกรไทยผนึกทุกภาคส่วน แนะยุทธศาสตร์รับมือโลกร้อน

สรุปประเด็นสำคัญที่น่าสนใจในช่วงเช้าจากงาน EARTH JUMP 2025 มีดังนี้ 

  1. ทั่วโลกยังเดินหน้าด้านสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่อาจจะเดินได้ช้าลง โดยตัวแทนภาคธุรกิจไทยมองว่าเอกชนยังมุ่งมั่นเดินหน้าตาม Roadmap เดิม แต่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ความชัดเจนของนโยบายและข้อบังคับต่างๆ รวมถึงแหล่งเงินทุนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนผ่าน นอกจากนี้การสนับสนุนองค์ความรู้ก็สำคัญ ต้องทำให้เห็นว่านี่คือโอกาสของธุรกิจ เพราะหากเปลี่ยนแล้วไม่สร้างรายได้ ก็ไม่มีใครอยากทำ
  2. ประเทศไทยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเรื่อง Taxonomy ในอาเซียน ไทยเป็นประเทศแรกๆ ในอาเซียนที่มีการกำหนดนิยามและจัดหมวดหมู่กิจกรรมในภาคเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือ Taxonomy โดยมีกรณีศึกษาของประเทศจีนที่น่าสนใจ คือ จีนให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2557 เพราะประสบปัญหาด้านมลพิษ ภาครัฐจึงกำหนดนโยบายส่งเสริมกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การให้เงินทุนสนับสนุนและมาตรการส่งเสริมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ กฎระเบียบในการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม จนสามารถแก้ไขปัญหามลพิษได้ในที่สุด
  3. Climate Finance เป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนความยั่งยืนใน Supply Chain ซึ่ง Climate Finance ทั่วโลกพัฒนาอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะในเอเชีย นักลงทุนเลือกลงทุนในธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน แต่ธุรกิจ SME ที่อยู่ใน Supply Chain ส่วนใหญ่ยังต้องการความช่วยเหลือในการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งธนาคารพร้อมช่วยเหลือทั้งการให้ความรู้ ให้คำปรึกษา สนับสนุนเครื่องมือ รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุน 

งาน EARTH JUMP 2025 จัดขึ้น 2 วัน โดยในส่วนของการจัดงานวันที่สอง (29 พ.ค. 2568) มีเรื่องที่น่าสนใจ ได้แก่ อัปเดตเทรนด์และผลกระทบต่อธุรกิจไทย ฟังมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญและภาคธุรกิจถึงทางรอดใหม่ของ SME ในยุค Net Zero