EXIM BANK แนะผู้ประกอบการหาตลาดส่งออกใหม่ทดแทนตลาดสหรัฐ

EXIM BANK แนะผู้ประกอบการหาตลาดส่งออกใหม่ทดแทนตลาดสหรัฐ

EXIM BANK แนะผู้ประกอบการหาตลาดส่งออกใหม่ทดแทนตลาดสหรัฐ สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการร่วมงานแสดงสินค้า และประกันการส่งออกลดความเสี่ยงจากคู่ค้ารายใหม่

มาตรการภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่รัฐบาลสหรัฐกำหนดขึ้น เพื่อเก็บจากสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อสร้างความสมดุลทางการค้า โดยยึดเอามูลค่าการขาดดุลการค้าระหว่างสหรัฐกับแต่ละคู่ค้าเป็นหลัก โดยเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา สหรัฐประกาศอัตราภาษีที่เรียกเก็บแต่ละประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งประเทศไทยถูกประกาศขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 36% แต่ต่อมาได้ประกาศระงับการเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วัน และลดอัตราภาษีนำเข้าพื้นฐานเหลือ 10% ก่อนเพื่อรอการเจรจาระดับรัฐบาลกับแต่ละประเทศ

แม้ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยยังไม่ชัดเจน แต่ปัญหาสงครามการค้า 2.0 มีแนวโน้มยืดเยื้อทำให้ไม่สามารถหวังพึ่งพาการส่งออกไปตลาดสหรัฐที่มีสัดส่วนการค้าถึง 18% ของการส่งออกทั้งหมดของไทยได้ การหาตลาดส่งออกทดแทนเป็นสิ่งที่จะต้องดำเนินการโดยการพุ่งเป้าไปยังตลาดที่มีศักยภาพที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสูง

หลายประเทศในตลาดใหม่ (New Frontiers) มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสูงกว่าค่าเฉลี่ยเศรษฐกิจโลกไม่ว่าจะเป็นแอฟริกา กลุ่มประเทศ CLMV อินเดีย รวมถึงตะวันออกกลาง ซึ่งหลายประเทศในตะวันออกกลาง มีกำลังซื้อสูง อาทิ กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย กลุ่มประเทศเหล่านี้ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้นหรือเป็นประเทศที่ไทยยังมีสัดส่วนการส่งออกยังไม่สูงนัก การปรับสัดส่วนการค้าเพิ่มน้ำหนักไปยังกลุ่มนี้จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการสร้างเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจไทย

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหาตลาดส่งออกใหม่ทดแทนตลาดสหรัฐ EXIM BANK จะดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อสนับสนุนและป้องกันความเสี่ยงให้กับ ผู้ประกอบการ โดยจะประสานงานกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น กระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) เป็นต้น สนับสนุนให้ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศหรือต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและขยายธุรกิจผ่านสินเชื่อเพื่อการร่วมงานแสดงสินค้า (Trade Fair Financing) 

"สินเชื่อเพื่อการร่วมงานแสดงสินค้าจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขยายตลาดได้มากขึ้น โครงการนี้ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาท หลักประกันพิจารณาตามความเหมาะสม ได้รับอัตราดอกเบี้ยลดในปีแรก 0.50% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ประกอบการได้รับ (อ้างอิงตาม EXIM Composite Credit Rating) เงื่อนไขคือ จะต้องเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และ / หรือ เป็นสมาชิกของ FTI และ / หรือ ผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า ของ EXIM BANK" นายบัณฑิต กล่าว

EXIM BANK แนะผู้ประกอบการหาตลาดส่งออกใหม่ทดแทนตลาดสหรัฐ

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 (กันยายน 2567 - ตุลาคม 2568) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ มีกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกรวมทั้งสิ้น 510 โครงการ แยกเป็น 700 กิจกรรมย่อย มีเป้าหมายสร้างมูลค่าการค้ารวมประมาณ 92,363 ล้านบาท ซึ่งได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ การนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในไทยและต่างประเทศ อาทิ งาน THAIFEX Anuga Asia และงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair

นอกจากการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการร่วมงานแสดงสินค้า EXIM BANK เป็นธนาคารในประเทศไทยที่มีบริการประกันการส่งออก (Export Credit Insurance) และบริการประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อ / ธนาคารผู้ซื้อ ที่จะช่วยผู้ประกอบการตรวจสอบสถานะทางการเงินของคู่ค้าปลายทางก่อนที่จะตกลงทำการค้ากัน ทำให้ผู้ส่งออกมั่นใจในการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะกับคู่ค้าหน้าใหม่เพื่อตอบโจทย์ผู้ส่งออกที่ต้องการการคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระค่าสินค้าจากผู้ซื้อ / ธนาคารผู้ซื้อในต่างประเทศ ถือเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้ผู้ส่งออกค้าขายได้ด้วยความมั่นใจมากขึ้น

นอกจากนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ ผู้ประกอบการ SMEs หากเป็นนิติบุคคลทั้งที่ยังไม่ได้ส่งออก หรือสนใจจะเริ่มส่งออก ทาง EXIM BANK ยินดีที่จะให้ทดลองใช้บริการประกันการส่งออก ซึ่งเป็นการรับประกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อหรือธนาคารผู้ซื้อในต่างประเทศภายหลังการส่งออกในระยะเวลา 1 ปี ในวงเงิน 3 แสนบาท

หากสนใจอยากทดลองใช้บริการและปรึกษาปัญหาธุรกิจได้ที่ EXIM Contact Center โทร. 0-2169-9999 โครงการนี้จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับ SMEs กล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ในประเทศไปสู่ตลาดผู้ซื้อใหม่ๆ ทั่วโลก รวมถึงตลาดใหม่ที่เต็มไปด้วยความต้องการซื้อสินค้าและโอกาสทางธุรกิจอีกมาก