"เติบโตอย่างยั่งยืน" กับกิจการร้านอินทนิล

"เติบโตอย่างยั่งยืน" กับกิจการร้านอินทนิล

เปิดใจ ดร.นิลาวัณย์ พาณิชย์รุ่งเรือง ผู้ประกาศข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 กับอีกบทบาทในฐานะผู้ประกอบการร้านอินทนิล พร้อมเผยเคล็ดลับเอาใจลูกค้า สู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ในยุค New Normal การมีงานมากกว่าหนึ่งอาชีพได้กลายเป็นวิถีชีวิตของคนเมือง การได้ทำงานที่มั่นคง ผนวกกับงานที่ยั่งยืน อาจจะเป็นความฝันของหลายๆ คน และนั่นคือภาพสะท้อนของ ดร.นิลาวัณย์ พาณิชย์รุ่งเรือง ผู้ประกาศข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ผู้มีประสบการณ์ในวิชาชีพสื่อมวลชนมากกว่า 30 ปีแล้ว  

แต่ความตั้งใจแรกในการทำงานของ ดร.นิลาวัณย์ คือการได้เป็นเจ้าของกิจการ ควบคู่ไปกับการงานด้านสื่อสารมวลชนไปพร้อมๆ กัน เพราะต้องการมีอาชีพที่ทั้งมั่นคงและยั่งยืน จนได้มาลงตัวที่การเปิดกิจการ ร้านอินทนิล ซึ่งได้เป็นผู้ประกอบการมาเป็นเวลาเกือบ 6 ปีแล้ว 

"เติบโตอย่างยั่งยืน" กับกิจการร้านอินทนิล

งานสื่อมวลชน vs งานเจ้าของร้านอินทนิล 

ดร.นิลาวัณย์ เปิดเผยว่า การบริหาร ร้านอินทนิล ต้องลงมือทำเองตั้งแต่เริ่มต้น เรียนรู้ทุกอย่างทุกขั้นตอน คำนวนต้นทุนกำไรต่อแก้ว ทำการตลาด ชงเมนูต่างๆ โดยไม่เคยใช้ความเป็นสื่อมวลชนมาช่วย หรือไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเป็นเจ้าของกิจการนี้ เพราะต้องการให้ธุรกิจเติบโตได้ด้วยตัวเองไม่จำเป็นต้องใช้ความเป็นคนที่มีคนรู้จักผ่านสื่อมาช่วย ซึ่งจากการเติบโตของธุรกิจที่ผ่านมา ก็สามารถมั่นใจได้ว่ากิจการนี้เติบโตได้ด้วยตัวเอง แม้งานสองสายจะดูแตกต่าง แต่เธอกลับพบจุดร่วมและสามารถประยุกต์ทักษะระหว่างกันได้อย่างลงตัว 

"งานสื่อมวลชนต้องปรับผังรายการทุกๆ 3 เดือน งานร้านกาแฟก็ต้องออกโปรโมชันทุกเดือน นี่เป็นความเหมือน คือเราต้องพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง ส่วนความต่างคือ ร้านกาแฟมีรายละเอียดมาก ต้องรู้เรื่อง บริหารคนบริหารต้นทุน ปรับตัวตามสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนไป อากาศร้อน หน้าฝน ส่งผลต่อธุรกิจร้านกาแฟทั้งหมด ส่วนงานสื่อสารมวลชนเป็นงานขนาดใหญ่มีทีมงานกองถ่าย ต่างจากร้านกาแฟที่คำนวนต้นทุนกำไรต่อแก้ว" ดร.นิลาวัณย์ กล่าว 

"เติบโตอย่างยั่งยืน" กับกิจการร้านอินทนิล

เคล็ดลับเอาใจลูกค้าร้านอินทนิล 

การตลาดของธุรกิจ ร้านอินทนิล ยึดความนิยมของลูกค้าเป็นหลัก ที่อินทนิลมีเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย อีกทั้งยังมีสินค้ากลุ่ม Non-Drink มานำเสนอ ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งวัน เช่นช่วงเช้าลูกค้ามาสั่งกาแฟ ช่วงบ่ายสั่งน้ำผลไม้ หน้าร้อน ลูกค้าดื่มน้ำเยอะ ผลไม้ปั่น หน้าฝนไม่สามารถออกมาซื้อได้ จะมีบริการสั่งออนไลน์ delivery ส่วนวันหยุดจะมีโปรโมชันต่างๆ ออกมากระตุ้นการบริโภค ผู้ประกอบการก็ต้องตื่นตัวไปด้วยกับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของผู้บริโภค 

จากกระแสมัทฉะที่มาแรง แรงแค่ไหนที่ร้านอินทนิล

ดร.นิลาวัณย์ เล่าถึงความนิยมเมนูมัทฉะ ซึ่งเป็นเมนูที่มาแรงมากตั้งแต่ต้นปี คาดว่าความนิยมนี้มาจากหลายปัจจัย เช่นคนไทยชื่นชอบญี่ปุ่น ความนิยมเรื่องรักสุขภาพ ประกอบกับความรู้เรื่องสรรพคุณของมัทฉะที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีเผยแพร่อย่างแพร่หลาย คนไทยจึงหันมานิยมดื่มมัทฉะมากขึ้น ที่ร้านอินทนิลนำมัทฉะพรีเมี่ยม (Uji Matcha) มาชงให้ลูกค้า ซึ่งเป็นวัตถุดิบดีมีคุณภาพ โดยความนิยมเมนูมัทฉะสามารถพิสูจน์ได้จากยอดขายที่ร้านคุณนิ คิดเป็นร้อยละ 10 ของรายการเมนูเครื่องดื่มทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก นอกจากนี้ยังนำมาทำเครื่องดื่มได้หลายเมนู เช่น มัทฉะน้ำผึ้งมะนาว มัทฉะน้ำมะพร้าว มัทฉะอัญชัน ทำให้ทางร้านมีเมนูหลากหลายมานำเสนอให้ลูกค้าได้ทุกวัน ไม่ต่างจากเมนูกาแฟ ที่มีทั้งเอสเพรสโซ่ คาปูชิโน และอื่นๆ  

"เติบโตอย่างยั่งยืน" กับกิจการร้านอินทนิล

จากสื่อมวลชน...สู่ผู้ประกอบการที่เข้าใจธุรกิจและลูกค้า 

ดร.นิลาวัณย์ พิสูจน์ให้เห็นว่าความมั่นคงและความยั่งยืนสามารถเดินไปพร้อมกันได้ หากมีใจที่พร้อมเรียนรู้ และไม่หยุดพัฒนา แม้จะอยู่ในคนละโลกของงาน แต่สุดท้ายทั้งสองบทบาทต่างเติมเต็มกันอย่างสวยงาม 

สำหรับ ร้านอินทนิล มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่ม Non-Drink เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของลูกค้าให้ครอบคลุม เช่น เมนูอาหารเช้า ​โจ๊ก ไข่กระทะ ขนมไทย ของว่างต่าง ๆ จับคู่กับเครื่องดื่มได้ตลอดวัน นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมเมนูเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำผลไม้ปั่น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 15-20 ตั้งแต่เริ่มจำหน่าย  

ปีนี้ อินทนิล ตั้งเป้าขยาย 1,400 สาขา โดยยึดมั่นในแนวคิดมุ่งช่วยเหลือชุมชน นำผลผลิตจากเกษตรกร โครงการหลวง วิสาหกิจชุมชน มาจำหน่าย พร้อมตั้งราคาที่เข้าถึงได้ ไม่เน้นผลกำไรสูงสุด แต่เน้นคุณค่าและความยั่งยืนในระยะยาว

"เติบโตอย่างยั่งยืน" กับกิจการร้านอินทนิล