IP กางแผนปี 68 จ่อไฟลิ่ง Lab Pharmacy อัปการเติบโต ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 2.4 พันลบ.

IP กางแผนปี 2568 จ่อไฟลิ่ง "Lab Pharmacy" อัปการเติบโต ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 2.4 พันล้านบาท และเปิดผลงานปี 2567 กวาดรายได้ 1.9 พันล้านบาท
บมจ. อินเตอร์ ฟาร์มา กางแผนปี 2568 เดินหน้า Spin off บริษัทลูกเข้าตลาดหุ้น จ่อยื่นไฟลิ่ง "Lab Pharmacy" ไตรมาส 2 อัปการเติบโตแกร่ง ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีโตทะลุ 2,400 ล้านบาท เปิดผลงานปี 2567 รายได้รวม 1,900 ล้านบาท โตกว่า 6.5% ตามการเติบโตที่ดีเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะ "ลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล" - "ธุรกิจร้านขายยา" พร้อมบุ๊ครายได้จากธุรกิจนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์เติมพอร์ตอีกกว่า 57 ล้านบาท
ดร. ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์ เปิดเผยแผนดำเนินธุรกิจในปี 2568 ว่าบริษัทฯ เตรียมเดินหน้า spin off บริษัทลูกเข้าตลาดหุ้น ต่อจิ๊กซอว์การเติบโตแกร่ง ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีเติบโตทะลุ 2,400 ล้านบาท ภายใต้ศักยภาพการทำกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งตามแผนเตรียมยื่นไฟลิ่ง "Lab Pharmacy" ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นบริษัทแรก ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา รายได้รวมเติบโต 6.3% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 1,912 ล้านบาท ตามการเติบโตที่ดีเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล (Hospital Market) ที่เติบโตเกือบ 14% และกลุ่มธุรกิจร้านขายยา ภายใต้แบรนด์ "Lab Pharmacy" ที่เติบโตดีต่อเนื่อง 9.5% แตะ 644 ล้านบาท ตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 41 แห่ง ณ สิ้นปี 2567 (44 แห่ง ณ ก.พ. 68) ขณะที่ลูกค้ากลุ่มผู้บริโภค (Consumer Market) รายได้เติบโตขึ้น 1.5% อยู่ที่ 421 ล้านบาท จากทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์รักษาโรค, กลุ่มโภชนเภสัช และอาหารเสริม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ ท่ามกลางความท้าทายจากสินค้าปลอมและลอกเลียนแบบในตลาดที่มีอยู่จำนวนมาก
นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตได้ใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 350 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้ร่วมลงทุนช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพิ่มเข้ามาอีกจำนวน 57 ล้านบาท แม้กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลจะได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงพื้นที่ และพัฒนาภาพลักษณ์ใหม่ ทำให้มีรายได้ลดลงอยู่ที่ 189 ล้านบาท ปัจจุบันการปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้ว และเปลี่ยนชื่อจากโรงพยาบาลนครพัฒน์เป็น โรงพยาบาลนครพัฒน์อินเตอร์ และเปิดศูนย์รังสี MRI, CT scan และโซนผู้ป่วยนอกใหม่ตั้งแต่ต้นปี มั่นใจปี 2568 ธุรกิจโรงพยาบาลมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับค่าใช้จ่ายรวมปี 2567 เพิ่มขึ้นราว 8% อยู่ที่ 1,836 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 17% มาอยู่ที่ 443 ล้านบาท เช่น ค่าโฆษณา, กิจกรรมทางการตลาด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการกระจายสินค้า ประกอบกับช่วงไตรมาส 3/67 บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนเพิ่มในกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจต่อยอดการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 38 ล้านบาท ซึ่งกำไรที่ลดลงส่วนหนึ่งเกิดจากการที่โรงงานอินเตอร์ฟาร์มา ที่อยุธยา ต้องหยุดผลิตเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อติดตั้งเครื่องจักรและปรับพื้นที่ ผลิตยาตาเพื่อรองรับ EU Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดเพื่อส่งออกยาตาไปจำหน่ายทั่วโลก
"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคง ยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการกำหนดกลยุทธ์ เป้าหมาย และแผนการดำเนินงาน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ สามารถดำเนินการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนครบทุกภาคส่วน" ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุด บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา แบ่งโครงสร้างธุรกิจใหม่ออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.) กลุ่มธุรกิจลูกค้าโรงพยาบาล (Hospital Market) 2.) กลุ่มธุรกิจลูกค้าผู้บริโภค (Consumer Market) 3.) กลุ่มธุรกิจดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (Animal Healthcare) 4.) กลุ่มธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ "Lab Pharmacy" 5.) กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลและคลินิก (Hospital Business) และ 6.) กลุ่มธุรกิจนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Devices Innovation)







