KLINIQ ปันผลรวมทั้งปีจ่าย 1.30 บาท/หุ้น หลังกวาดกำไรปี 66 ถึง 289 ล้านบาท

KLINIQ ปันผลรวมทั้งปีจ่าย 1.30 บาท/หุ้น หลังกวาดกำไรปี 66 ถึง 289 ล้านบาท

KLINIQ ปันผลเอาใจผู้ถือหุ้นจากผลประกอบการงวดครึ่งปีหลัง 0.75 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่าย 1.30 บาท/หุ้น ชี้กระแสเงินสดแข็งแกร่ง หลังกวาดกำไรปี 66 ถึง 289 ล้านบาท โตทะลุเป้า 41%

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2566 ว่า เดอะคลีนิกค์สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้ที่ 2,284.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีรายได้ 1,639.03 ล้านบาท เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิพุ่งมาอยู่ที่ 288.62 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 205.49 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามอย่างต่อเนื่องจากจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้า ประกอบกับกลยุทธ์การขยายสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยปี 2566 ขยายสาขา 15 สาขา รวมมีสาขาให้บริการ 55 สาขา เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสาขา 40 สาขาทั่วประเทศ ประกาศจ่ายปันผล 100 เปอร์เซ็นต์ของกำไรสุทธิ เนื่องจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่งกระแสเงินสดจำนวนมาก โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 1.30 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.35 บาท เหลือปันผลอีก 0.75 บาท และกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 11 เมษายน 2567 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 2 พฤษภาคม 2567

"KLINIQ พร้อมเดินหน้าสร้างผลงานในปี 2567 ให้เติบโตต่อเนื่อง เพื่อการตอบรับที่ดีของลูกค้าและเป็นคลินิกเสริมความงามชั้นนำที่คนไข้ทั้งในและต่างประเทศไว้วางใจใช้บริการ เน้นการสร้าง Brand Awareness, เทคนิคการรักษาของทีมแพทย์ และการพัฒนาอย่างครบวงจร โดยเดอะคลีนิกค์ตั้งเป้าขยายสาขาในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 10 สาขา โดยปัจจุบันเดอะคลีนิกค์เรามีสาขาที่พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ ครอบคลุมตามหัวเมืองใหญ่ และในกรุงเทพฯ จำนวนสาขาช่วงต้นปีนี้มีสาขาให้บริการกว่า 60 สาขา โดยสาขาที่เปิดให้บริการในต้นปี 2567 อาทิ THE KLINIQUE เซ็นทรัล นครสวรรค์ เซ็นทรัล เวิลด์ พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอน บางแค เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอด ชิดลม รวมทั้งสาขา L.A.B.X. ซีคอน ศรีนครินทร์ พรอมานาด เอสพลานาด" นายแพทย์อภิรุจ กล่าว

นายแพทย์อภิรุจ กล่าวถึงกลยุทธ์การเติบโตของเดอะคลีนิกค์ในปี 2567 มุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการยกกระชับปรับรูปหน้าและริ้วรอย ด้วยเทคโนโลยี Ulthera SPT+ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญการด้านนี้โดยเฉพาะ และจากผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าหลังจากเข้ารับบริการว่าเห็นผลดี ทำให้มีการบอกต่อและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับนวัตกรรม Ulthera SPT+ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นอีกปีแห่งความภาคภูมิใจที่ เดอะคลีนิกค์ THE KLINIQUE ได้รับรางวัลใหญ่ Ulthera Lifting - Highest Achievement Regional APAC Awards - Category A Winner เป็นรางวัลใหญ่ในระดับภูมิภาคเอเชีย และเอเชียแปซิฟิก จากงาน Golden Record Award โดย MERZ Aesthetics ซึ่งเป็นรางวัลที่การันตีความน่าเชื่อถือแห่งวงการ จากคลินิกทั่วภูมิภาคเอเชียกว่า 10 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ เวียดนาม ซึ่งเดอะคลีนิกค์ ได้รับรางวัลดังกล่าวต่อเนื่องมาหลายปี ส่วนหนึ่งมาจากการันตีจากผู้รับบริการ ประกอบกับจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่งผลให้ยอดรายได้เพิ่มขึ้น และล่าสุดได้รับรางวัลด้าน Ulthera เพิ่มเติมคือรางวัล The Thailand Number One Legendary Award forUltherapy Nationwide Coverage คลินิกที่ให้บริการโปรแกรม Ulthera ครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด และรางวัลด้าน Galderma กับ Galderma Grand Award Aesthetic Portfolio Achievement อีกด้วย

ณ สิ้นปี 2566 เดอะคลีนิกค์ มีจำนวนสาขา 55 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE จำนวน 38 สาขา, THE KLINIQUE SURGERY CENTER จำนวน  1 สาขา L.A.B.X. จำนวน 14 สาขา, KLINIQ SPA 1 สาขา และ L’CLINIC 1 สาขา