OTO งบวูบ 128 ล้านบาท ขาดทุนจากการลงทุนระยะสั้น กระทบงบ Q2/2566

OTO งบวูบ 128 ล้านบาท ขาดทุนจากการลงทุนระยะสั้น กระทบงบ Q2/2566

OTO งบวูบ 128 ล้านบาท ขาดทุนจากการลงทุนระยะสั้น กระทบงบ Q2/2566 บอร์ดเตรียมปรับนโยบายลงทุน

15 สิงหาคม 2566 บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO นำโดย นายจิรายุ เชื้อแย้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร ได้รายงานต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 2/2566 โดยงวดสามเดือนกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม (ไม่รวมรายได้อื่น) จำนวน 137.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และลดลง 5.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีขาดทุนสุทธิ 128.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 223% ซึ่งเป็นผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท 123.2 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง และการขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนจำนวน 117.4 ล้านบาท รวมถึงค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 155.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 570.3 เป็นผลมาจากการขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนเป็นหลัก  

นายจิรายุ เชื้อแย้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร OTO กล่าวว่า ผลขาดทุนในไตรมาส 2/2566 เป็นผลมาจากการลดลงของราคาหุ้นในพอร์ตลงทุนระยะสั้นที่ลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นหลัก ในขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจ call center ยังสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมียอดเงินสด ณ วันสิ้นงวดอยู่ที่ 693 ล้านบาท และปราศจากหนี้สินทางการเงิน ด้านแผนการดำเนินงานต่อจากนี้ บริษัทฯ จะยังคงแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจต่อไป และมุ่งเติบโตธุรกิจ call center โดยจะมีการขยายไปทางด้าน Outbound Call มากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการให้บริการ Call Center

ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้หลักของ OTO มาจากการจัดการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ หรือ Call Center โดยคิดเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ

  1. การให้บริการบริหารจัดการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ (Fully Outsourced Contact CenterManagementService) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 71.74%
  2. การให้บริการจัดหาลูกค้าสัมพันธ์ (CustomerService RepresentativeOutsourced) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 22.40%
  3. การให้บริการระบบศูนย์บริการให้ข้อมูล และอุปกรณ์ (Contact Center Facility Outsourced) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 4.13%
  4. การให้บริการบํารุงรักษาศูนย์ให้บริการข้อมูล (MaintenanceService) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 1.73%