OKMD ยกระดับธุรกิจ SME สร้างแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ทั่วประเทศ

OKMD ยกระดับธุรกิจ SME สร้างแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ทั่วประเทศ

OKMD ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สร้างแพลตฟอร์มเชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้ออนไลน์จากทั่วประเทศที่ชื่อ OKMD Knowledge Portal

สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาศูนย์กลางการเรียนรู้ออนไลน์ของประเทศ

มุ่งสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความรู้ พร้อมขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยด้วยนวัตกรรมความรู้ที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจ ที่ได้รับการบริหารจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ บนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้ออนไลน์จากทั่วประเทศ หรือ OKMD Knowledge Portal (https://knowledgeportal.okmd.or.th) ในงาน SME Day 2023 “รวมพลังโต”

 

 ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ หรือ OKMD กล่าวว่า “ปัจจุบันการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้เพื่อยกระดับทักษะความสามารถ และเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการไทย ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติถือเป็นปัจจัยสำคัญ

และหนึ่งในภารกิจสำคัญของ OKMD คือการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการเรียนรู้สาธารณะผ่านการให้บริการความรู้ในแหล่งเรียนรู้ต้นแบบที่มีความทันสมัย โดยการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้ออนไลน์จากทั่วประเทศที่ชื่อ OKMD Knowledge Portal หรือ https://knowledgeportal.okmd.or.th

OKMD ยกระดับธุรกิจ SME สร้างแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ทั่วประเทศ

ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลความรู้และหลักสูตรออนไลน์จำนวนมากหลากหลายสาขา มีการจัดหมวดหมู่ความรู้ที่ชัดเจน มีการพัฒนาเนื้อหาให้ง่ายต่อความเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ทันที ทั้งยังมีรูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดย OKMD เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุน

และส่งเสริมด้านองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการ SME ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการลดต้นทุนในการเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ เราจึงทำการศึกษา จัดทำ

และรวบรวมข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการในหลายๆ ด้าน เช่น เทรนด์การทำธุรกิจ การเริ่มต้นธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การตลาดออนไลน์ ความรู้เรื่องภาษีสำหรับ SME ฯลฯ ไว้ในแพลตฟอร์ม OKMD Knowledge Portal  ที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงความรู้ได้ในทันที ทุกที่ ทุกเวลา”

ดร.ทวารัฐ กล่าวเพิ่มว่า “ในระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมามีการเชื่อมโยงระบบ E-learning ของ สสว. เข้ากับ OKMD Knowledge Portal เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงการให้บริการข้อมูลความรู้และหลักสูตรที่เกี่ยวกับการเสริมศักยภาพธุรกิจ SME ของ OKMD

OKMD ยกระดับธุรกิจ SME สร้างแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ทั่วประเทศ

โดยทาง สสว. สามารถนำไปเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการนำไปประยุกต์ใช้และต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจต่อไป และในอนาคต OKMD จะพัฒนาการจัดทำหลักสูตร โดยเน้นการให้คำปรึกษาแนะนำธุรกิจ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ

เพื่อสร้างเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการ รวมทั้งการนำองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจในอนาคต เพื่อเตรียมความพร้อมรับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยจะนำไปไว้ในระบบของ BDS - Business Development Service ของ สสว. ที่เปิดให้ผู้ประกอบการเลือกรับบริการด้านการพัฒนาธุรกิจที่ตรงกับความต้องการของตน จากผู้ให้บริการทางธุรกิจทั้งส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ฯลฯ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาให้ผู้ประกอบการแบบร่วมจ่ายในสัดส่วนร้อยละ 80 ผู้ประกอบการร้อยละ 20

โดย OKMD ยังคงภารกิจในการพัฒนาสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ๆ และออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้ามาเลือกใช้และนำไปต่อยอดธุรกิจของตนเอง เพราะความรู้คือโอกาสที่จะนำธุรกิจไปแข่งขันในตลาดโลกได้”

อย่างไรก็ตาม ดร.ทวารัฐ บอกว่า "นับเป็นความมุ่งมั่นของทั้งสองหน่วยงานที่จะร่วมกันสนับสนุนทั้งด้านองค์ความรู้ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ การเผยแพร่องค์ความรู้ และการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ทางแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ของประเทศ

และยังเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความรู้ของผู้ประกอบการ ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพให้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

โดยนำเอาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง การประกอบอาชีพ การประกอบธุรกิจ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”