หอฟอกอากาศ "ฟ้าใสมินิ" คืนคุณภาพชีวิตคนเมือง

หอฟอกอากาศ "ฟ้าใสมินิ" คืนคุณภาพชีวิตคนเมือง

หอฟอกอากาศ "ฟ้าใสมินิ" คืนคุณภาพชีวิตคนเมือง สร้างพื้นที่ปลอดภัยนอกอาคาร ป้องกันจากภัยฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรค

22 พ.ค. 2566 ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ RISC ภายใต้ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) มั่นใจหอฟอกอากาศอัตโนมัติ แบบไฮบริด "ฟ้าใสมินิ" รุ่นใหม่ล่าสุด ช่วยลดฝุ่น PM2.5 และฆ่าเชื้อโรค ตอบโจทย์คนเมืองที่กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพด้านการหายใจ และใช้พื้นที่นอกอาคารได้อย่างสบายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น เป็นโรคปอด โรคหัวใจ นอกจากนี้จากหลายงานวิจัยค้นพบว่า PM2.5 สามารถนำไปสู่ความเสี่ยงให้เกิดโรคอื่นๆ อีกมากมาย 

รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC by MQDC) เปิดเผยว่า หนึ่งในภารกิจหลักและความมุ่งมั่นของ RISC คือการจุดประกายความคิดและพัฒนานวัตกรรมที่จะตอบสนองโลกอนาคตและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกชีวิต หอฟอกอากาศนอกอาคาร "ฟ้าใสมินิ รุ่นใหม่" เป็นหนึ่งในผลงานที่เป็นรูปธรรมของ RISC ที่เราพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเมือง รวมถึงประเด็นด้าน สิ่งแวดล้อมและสังคม 

"หอฟอกอากาศ ระดับเมืองอัตโนมัติแบบไฮบริด ฟ้าใส เป็นนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนจากการวิจัย และพัฒนาของ RISC ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2562 เพื่อช่วยลดมลภาวะทางอากาศและฝุ่น ซึ่งเป็นปัญหาของเมืองต่อเนื่องมายาวนาน และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีความรุนแรงมากในปีนี้ จนทำให้กรุงเทพมหานครและหลายๆ จังหวัด กลายเป็นเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงติดอันดับโลก รวมถึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของประชาชนในระยะยาว เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มะเร็งปอด โรคหอบหืด โรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กที่ ใช้เวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งมาก และมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืดและโรคระบบทางเดิน หายใจที่รุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่"

รศ.ดร.สิงห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟ้าใสมินิ รุ่นใหม่ ถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยผลการวิจัยของเรายืนยันว่า สามารถลดฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 70% นอกจากนี้ยังฆ่าเชื้อโรคได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส มีต้นทุนการผลิตที่ลดลงทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ตลอดจนมีดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้นทั้งรูปลักษณ์ และสีสันในโทนสีพาสเทลสดชื่น สอดคล้องกับความต้องการและเทรนด์การออกแบบในยุคปัจจุบัน ฟ้าใสมินิ รุ่นใหม่ จึงเป็นนวัตกรรมเพื่ออากาศสะอาดปลอดภัยที่จะเปลี่ยนโฉมและทำให้เมืองน่าอยู่มากขึ้น

หอฟอกอากาศ \"ฟ้าใสมินิ\" คืนคุณภาพชีวิตคนเมือง

ตัวเครื่อง หอฟอกอากาศ รุ่นล่าสุด ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมสูง 5.10 เมตร เหลือความสูงเพียง 3.20 เมตร และฐานกว้าง 1.35 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและติดตั้ง สามารถเข้าถึงเข้าถึงพื้นที่แออัดในเมืองได้ โดยมีกำลังขนาดของพัดลมขาเข้าและขาออกรวมเป็น 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่เท่ากับครึ่งสนามฟุตบอลโดยประมาณ

หลักการทำงานของหอฟอกอากาศฟ้าใสมินิ เริ่มต้นจากการดูดอากาศจากด้านล่างด้วยพัดลม ดึงอากาศเข้าไปในระบบ ผ่านหัวพ่นละอองน้ำความเร็วสูง 2 ชั้น (ตามวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน) ผสมกับการออกแบบแผ่นโครงสร้างดักฝุ่นละอองและเพิ่มแรงตึงผิวให้กับน้ำ สามารถจับอนุภาคขนาดตั้งแต่ 0.3 ไมครอน ขึ้นไป อากาศจากหอฟอกอากาศนี้จะผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบ UVGI เพื่อทำให้สะอาดอย่างแท้จริง และจะปล่อยออกมาในระดับความสูงที่คนหายใจพอดี โดยมีใบพัดช่วยดึงให้ได้ปริมาตรตามต้องการ ฟ้าใสมินิรุ่นใหม่ใช้ปริมาณน้ำในระบบเพียง 50 ลิตรต่อวัน เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนในอากาศ รวมถึงมีระบบหมุนเวียนน้ำ บางส่วนให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยีโอโซนในน้ำและระบบกรองน้ำ ส่วนระบบอัตโนมัติแบบไฮบริด เป็นการนำพลังงานที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ มาใช้ร่วมกันกับระบบพลังงานไฟฟ้าทั่วไป เพื่อลดภาระการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน 

หอฟอกอากาศ \"ฟ้าใสมินิ\" คืนคุณภาพชีวิตคนเมือง "จากการทดสอบประสิทธิภาพของหอฟอกอากาศฟ้าใสที่ผ่านมาพบว่า เมื่อมีการติดตั้งใช้งานฟ้าใสในบริบทของเมืองที่มีอาคารและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองลดลงและสร้างขอบเขตพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างชัดเจน โดยมีประสิทธิภาพที่ 50-70% โดยคิดจากวันที่มีฝุ่นสะสมในพื้นที่เมืองที่ 100-150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่ง RISC มีความมั่นใจว่า ฟ้าใสมินิ รุ่นใหม่จะทำหน้าที่การสร้างพื้นที่ปลอดภัยได้ไม่แตกต่างจากรุ่นพี่ฟ้าใสเดิม และสามารถติดตั้งในบริเวณพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของอาคารสูง ถนนเล็กในเขตชุมชน และตรอกซอยได้ดียิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีการสะสมของฝุ่นในปริมาณที่มากกว่ากรุงเทพมหานครถึง 5 เท่า (500-750 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) และมีลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ที่แตกต่างจากเมือง ยกตัวอย่าง มหาวิทยาลัยพะเยาที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ เมื่อเกิดการเผาในบริเวณรอบ ฝุ่นละอองก็จะตกลงมาและสะสมในพื้นที่เหล่านี้ได้โดยง่าย ซึ่ง RISC อยู่ระหว่างทำวิจัยและทดสอบประสิทธิภาพของฟ้าใสอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เกิดประบวนการเรียนรู้และต่อยอดในการพัฒนานวัตกรรมอากาศสะอาดในอนาคตต่อไป"

นอกจากนี้ RISC ได้ร่วมกับบริษัท ดี ซูพรีม จำกัด ในการจำหน่าย หอฟอกอากาศ นอกอาคาร ฟ้าใสมินิ รุ่นใหม่ ล่าสุดมีการวิจัยเกี่ยวกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการใช้ชีวิตนอกอาคาร เพื่อลดการสัมผัส PM2.5 และประเมินการรับรู้การป้องกันตนเองของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการเผาหญ้าและขยะในที่โล่ง ซึ่งการวิจัยจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้

รศ.ดร.สิงห์ กล่าวทิ้งท้ายว่า RISC จะเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมบนแนวคิดการดำเนินงานเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนให้กับสรรพสิ่งบนโลก หรือ For All Well-Being ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) เพราะเรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา มลพิษทางอากาศ และสร้างประโยชน์ให้กับหลายพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น