KMS "ขวัญมุย" ต่อยอดธุรกิจ ส่ง "รังนกผง" เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

KMS "ขวัญมุย" ต่อยอดธุรกิจ ส่ง "รังนกผง" เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

KMS "ขวัญมุย" ต่อยอดธุรกิจ ส่ง "รังนกผง" เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ บริษัท ขวัญมุย จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายรังนกรายใหญ่ของไทย ใช้นวัตกรรมทำวิจัยและพัฒนาต่อยอดธุรกิจรังนกสู่ "รังนกชนิดผง" พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ลุยตลาดจีน ญี่ปุ่น

นายกมลศักดิ์  เลิสไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขวัญมุย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรังนกชนิดผงภายใต้แบรนด์ KMS  เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการธุรกิจรังนกมากว่า 20 ปี ที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะเป็นรูปแบบของการเป็นผู้ผลิตและส่งต่อรังนกไปยังตลาดที่ต้องการ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับรังนกแอ่นของบริษัท ประกอบไปด้วย รังนกดิบตามธรรมชาติ ,รังนกที่นำมาทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว , สารสกัดรังนก เครื่องสำอางรังนก ล่าสุดได้การสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อใช้เป็นทุนวิจัยและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์รังนกสู่ "รังนกชนิดผง" ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นได้ว่า การบริโภครังนกเป็นแบบวิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยมารองรับ และยังเป็นการนำนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย มาต่อเพิ่มมูลค่าให้กับรังนก โดยทางบริษัทฯ ยังได้รับอนุสิทธิบัตรกรรมวิธีการผลิตสกัดรังนกแห้ง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สะอาด มีสี กลิ่นตามธรรมชาติ และสรรพคุณตามเดิม

 

รังนกชนิดผง คิดค้นพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพ และการดูแลตัวเอง มีการบริโภครังนกในหลากหลายรูปแบบ ต้องการความง่าย พกพาสะดวก มากขึ้น มันเป็นความท้าท้ายของบริษัท ที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจากการกินรังนกพร้อมดื่ม หรือการต้มกินเองที่บ้าน มาเป็นรูปแบบสมัยใหม่ หรือชนิดผงที่สามารถนำมาชงดื่มทั้งร้อนและเย็น นำมาโรยบนอาหารได้ทุกชนิด ที่สำคัญไปกว่านั้นรังนกชนิดผงนี้ไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีรส กินง่ายได้สุขภาพ แต่ยังคงคุณค่าของสาระสำคัญเท่าเดิม สามารถดูดซึมได้ง่าย ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด โดยรังนกชนิดผง จะมีปริมาณกรดเซียลิก (NANA) ไม่น้อยกว่า 2% (g/100g) ซึ่งในต่างประเทศ อย่าง ประเทศจีน , ญี่ปุ่น และมาเลย์เซีย จะให้ความสำคัญกับสรรพคุณที่อยู่ในรังนกเป็นอย่างมาก

KMS \"ขวัญมุย\" ต่อยอดธุรกิจ ส่ง \"รังนกผง\" เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

ปัจจุบันรังนกดิบตามธรรมชาติและรังนกที่ถูกทำความสะอาดแล้วทางบริษัท จะนำออกไปจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้าจากประเทศต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เครื่องสำอางจะมีตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมารับผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ส่วนสกัดจากรังนกและผงรังนกจะเป็นการจำหน่ายให้กับลูกค้าองค์กร (B2B) เป็นหลัก ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้วางแผนนำผลิตภัณฑ์รังนกชนิดผงไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยเข้ามาเจรจาตกลงทำสัญญาทางการค้า (MOU) เพื่อขอรับซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทั้งหมดของบริษัทไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนตลาดในประเทศทางบริษัทฯ ได้วางแผนการสื่อสารการตลาดออกไปในทุกช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจในเรื่องการบริโภครังนกรูปแบบใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่าตลาดอาหารเพื่อสุขภาพยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง