"ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ

"ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ

"ทนายตั้ม" พานักแสดงสาว ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีถูกหลานอดีตรัฐมนตรี มอมยาและกระทำชำเรา แต่คดีไม่คืบหน้า ชี้หมดความเชื่อมั่นตำรวจโชคชัย ทำหลักฐานสำคัญตกหล่น ปัดแบล็คเมล์ ท้าคู่กรณีมาสู้คดีกัน พร้อมเปิดแชตหลักฐานสำคัญ

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ความคืบหน้าคดีนักแสดงสาว แจ้งดำเนินคดีกับ หลานอดีตรัฐมนตรี มอมยาและกระทำชำเรา โดยเมื่อช่วงเช้า หลานอดีตรัฐมนตรี ได้เข้ารับทราบข้อหา ยันถูกดาราสาวแบล็คเมล์ มีหลักฐานชี้แจงได้ รับตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (29 ส.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พา น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ดารานักแสดง พร้อม น.ส.เฟิร์น (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี พี่สาว เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าพบ ร.ต.ท.สพงษ์ธรรศน์ แก้วจุนันท์ รอง สารวัตร (สอบสวน) กองกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม

เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ตำรวจกองปราบฯ รับโอนสำนวนคดีที่ น.ส.แนน ถูกนายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม หลานของอดีตรัฐมนตรีข่มขืนที่พูลวิลลาแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้มาอยู่ในความรับผิดชอบ หลังก่อนหน้าเคยเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

"ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ
 

นายษิทรา กล่าวว่า อยากให้มีการโอนสำนวนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบฯ เนื่องจากผู้เสียหายไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ สน.โชคชัย เหตุเพราะมีการทำพยานหลักฐานตกหล่น โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญเป็นแชตการสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับผู้ถูกกล่าวหา ที่มีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงขั้นตอนการสอบสวนผู้เสียหายที่ไม่ละเอียดเท่าที่ควร

“ ยืนยันว่าผมและผู้เสียหายส่งหลักฐานเหล่านี้ให้กับทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ครบถ้วนไปหมดแล้ว ”

ด้าน น.ส.แนน กล่าวว่า อีกทั้งในวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนเดินทางไปแจ้งความนั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ยังพูดจาไม่ดีกับตัวเอง และพยายามให้ไปตรวจร่างกายใหม่อีกครั้ง ซึ่งห่างจากเวลาเกิดเหตุมาหลายชั่วโมง ทั้งที่ไปตรวจมาแล้ว และเห็นว่าพยายามที่จะแก้ไขสำนวน ซึ่งก็เห็นด้วยที่ผู้บังคับบัญชาให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นก่อน

น.ส.แนน กล่าวต่อว่า กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าตัวเองทะเลาะกับพี่สาวก่อนที่จะเดินทางไปหาคู่กรณีพร้อมกับนำโซจูไปเองด้วยนั้น ยอมรับว่ามีการทะเลาะกับพี่สาวจริง แต่ยืนยันว่าการไปพบผู้ถูกกล่าวหาเป็นการติดต่อพูดคุยเรื่องงาน รวมถึงตอนที่รับงานนี้ไม่ได้ขาดสติ 

"ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ
 

ส่วนเรื่องการติดต่อโรงแรมที่พักร่วมกับผู้ต้องหา ยังไม่ขอพูดถึงขอให้เป็นเรื่องในสำนวน ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีการสร้างเรื่องแบล็คเมล์ มีหลักฐานทุกอย่าง และอยากบอกว่าถ้าไม่ได้ทำผิดจะโทรศัพท์ติดต่อมาหาพร้อมกับยื่นข้อเสนอเรื่องเงินเพื่ออะไร เพราะตัวเองไม่ได้อยากได้เงิน แค่อยากได้ความยุติธรรม และความถูกต้อง เอาความจริงเอาหลักฐานมาคุยกัน ตนเองก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่เหมือนกัน

ขณะที่ น.ส.เฟิร์น พี่สาว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาพยายามติดต่อน้องสาวให้รับงานแสดงมิวสิควิดีโอ ซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดว่าทำไมผู้บริหารถึงมาติดต่องานเอง แต่ก็ได้เสนอประวัติ และผลงานของผู้เสียหายให้ และตกลงรับงานไป ส่วนกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ และ พาดพิงถึงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีของบรรพบุรุษจนทำให้ตระกูลได้รับความเสียหายนั้น ยืนยันว่า ที่มีการกล่าวอ้างถึงก็เพราะว่าที่ผ่านมาผู้ต้องหาพยายามใช้เครดิตของบรรพบุรุษของตัวเองมากล่าวอ้างตลอดว่ากำลังจะลงสมัครทางการเมือง

“การที่เขาออกมาเปิดหน้าท้าชน ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่แปลว่าเป็นสุภาพบุรุษ เพราะทุกวันนี้ตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร” น.ส.เฟิร์น กล่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนกองปราบได้รับหนังสือดังกล่าวก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

นอกจากนี้ “ทนายตั้ม” ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ"  พร้อมเปิดแชตสำคัญโดยระบุว่า  “นี่คือหนึ่งในหลักฐานที่แนบไปแจ้งความคดีหลานอดีตรัฐมนตรีก่อเหตุล่วงละเมิดก่อเรื่องโดนไป 8 ข้อหาหนักแบบนี้ ถ้าขอโทษง่ายๆแล้วจบ คงไม่ต้องมีทนายแบบผมไว้ว่าความแล้วล่ะครับ จำไว้เลยนะ ถ้าผู้หญิงเขาไม่ให้ Consent ตั้งแต่แรก อย่ามโนหลงตัวเอง ว่าผู้หญิงเขายอมครับ แล้วตอนนี้มาออกข่าวว่าตัวเองเป็นผู้ชายน่าสงสารถูกรังแก คุณไปทำอะไรเขาโดยไม่ได้รับความยินยอม ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อครับ”

โดยในแชตข้อความนั้นเป็นการสนทนาของชายและหญิงคนหนึ่ง โดยฝ่ายชายระบุว่า เข้าใจว่าเกิดขึ้นครั้งแรก อีกฝ่ายจึงตอบกลับว่า "ถ้าหนูเมามาก พี่เป็นคนชวนดื่ม และตกลงคุยกันแล้วว่าจะไม่ล่วงเกินกัน" ฝ่ายชายจึงตอบกลับมาว่า ขอโทษนะครับ ทำให้ฝ่ายหญิงถามต่อว่า แล้วทำไมยังทำ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายข้อความที่ "ทนายษิทรา" นำมาเปิดเผยพร้อมตั้งคำถามว่า บอกมีหลักฐานแน่นหนา รอดแน่ หลักฐานอะไรครับ ข้อความที่ส่งแล้วกด Unsend ทีหลัง มีเจตนาปกปิดอะไรหรือเปล่า และทางลูกความผมแคปไว้หมดแล้ว สามารถยื่นเรื่องกับทางไลน์ดูข้อมูลกันก็ได้นะครับ

"ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ "ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ "ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ "ดาราสาว" ร้องกองปราบฯ รับโอนคดี ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ขืนใจ พร้อมเปิดแชตสำคัญ