บ่นอุบ! ไข่ไก่ขึ้นราคาอีกแล้ว แถม "ผักชี-ต้นหอม" ขยับตาม โอดรายได้สวนทางค่าใช้จ่าย

บ่นอุบ! ไข่ไก่ขึ้นราคาอีกแล้ว แถม "ผักชี-ต้นหอม" ขยับตาม โอดรายได้สวนทางค่าใช้จ่าย

ประชาชนในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา บ่นอุบ ไข่ไก่ขึ้นราคาอีกแล้วแผงละ 3 บาท ทำให้ขายปลีกเบอร์ 1 อยู่ที่แผงละ 127 บาท ขณะที่ ต้นหอม กก.ละ 140 ผักชี กก.ละ 180 บาท ขึ้นฉ่าย กก.ละ 230 บาทแล้ว ประชาชนโอดค่าครองชีพและสินค้าต่างพาเหรดขึ้นราคาแทบทุกอย่างสวนทางกับรายได้

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 65 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา จากการสำรวจราคาตามแผงขายไข่ไก่ ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารของประชาชน พบว่า มีการปรับราคาขึ้นอีกแผงละ 3 บาท โดยราคาไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นแผงละ 127 บาท จากเดิม 124 บาท, ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นแผงละ 122 บาท จากเดิม 119 บาท, ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นแผงละ 118 บาท จากเดิม 115 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกไข่ไก่ตามตลาดสดและร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นด้วย โดยที่ร้านไข่ไก่สดใหม่ ถ.สุขยางค์ ในเขตเทศบาลเมืองเบตงซึ่งเป็นร้านขายส่ง พบว่าราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 0 และเบอร์ 4 มีจำหน่าย จัม ขณะที่ไข่ไก่เบอร์ 1, เบอร์ 2 และเบอร์ 3 ปรับขึ้นแผงละ 3 บาท

นายนิสิต เปาะเฮาะ เจ้าของร้าไข่ไก่สดใหม่เบตง บอกว่า ในอาทิตย์หน้าจะมีการปรับขึ้นอีกแผงละ 3 บาทซึ่งตอนนี้ไข่ไก่ที่ร้านเป็นของชุดเก่ายังไม่ปรับราคา แต่อาทิตย์จะมีการปรับราคาขึ้นแผงละ 3 บาท

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า นอกจากไข่ไก่ที่ปรับราคาขึ้นแล้ว ในส่วนของพืชผักต่างๆ อย่างผักชี ต้นหอม และขึ้นฉ่าย มีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน จากเดิม ขึ้นฉ่าย กก.ละ 180 บาท ล่าสุดมีการปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 230 บาทแล้ว โดยแผงขายผักตามตลาดสดทั่วไปที่นำไปแบ่งขายปลีกต้องขึ้นราคาขายตามไปด้วย ขณะที่หมูเนื้อแดง กก.ละ 230 บาท หมูสามชั้น กก.ละ 230 บาท หมูสองฃชั้น กก.ละ 230 บาท เล้ง กก.ละ 200 บาทกระสันหมู กก.ละ 200 บาท และขาหมู กก.ละ 160 บาท ส่วนแม่ค้าขายข้วขาหมูบอกว่า วัตถุดิบที่นำมาทำอาหารขายต่างก็ขึ้นราคาหมด แต่ที่ร้านยังคงขายจานละ 40 บาท เราะเห็นใจลูกค้า ที่ในยุคนี้มีแต่สินค้าปรับราคา แต่ค่าแรง สินค้าทางการเกษรตร เช่น ยางพารา น้ำยางสดอยู่ที่ กก.ละ51.30 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 49 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพดี กก.ละ 52.96 บาท และยางแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) กก.ละ 56.30 บาท
 

ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคที่ต่างต้องปรับตัวในการเลือกซื้อเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลงให้ได้มากที่สุด ทั้งการลดปริมาณการซื้อแต่หันมา เลือกซื้อ เช่น ไข่ไก่ที่ฟองเล็กลงและราคาถูก และเลือกซื้อผักเฉพาะทำแต่ละมื้อ เป็นต้น

และจากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนต่างมีเสียงสะท้อนไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจุบันค่าครองชีพและราคาสินค้าต่างปรับราคาขึ้นทุกอย่างและอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับรายได้ที่ประชาชนหามาได้ และจำนำมาใช้จ่ายในครอบครัวแทบไม่พอ ซึ่งอยากให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนให้ได้โดยเร็วที่สุดหรือหามาตรการมาช่วยเหลือเพื่อพยุงให้ประชาชนอยู่ได้ต่อไป