ทำงานออนไลน์ โดน 5 แสน บุกนครปฐม จับสาวแสบบัญชีม้าหลอกแม่บ้าน

ทำงานออนไลน์ โดน 5 แสน บุกนครปฐม จับสาวแสบบัญชีม้าหลอกแม่บ้าน

เตือนภัย ทำงานออนไลน์ โดน 5 แสน ตำรวจบุกนครปฐม จับสาวแสบบัญชีม้าหลอกแม่บ้าน

อัปเดตเตือนภัย ทำงานออนไลน์ โดน 5 แสน ตำรวจบุกจับสาวแสบ บัญชีม้า หลอกแม่บ้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ทำการจับกุมตัว นางสาว จ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรี และศาลจังหวัดสุโขทัย รวม 2 หมายจับ ในความผิดฐาน

  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
  • ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม

พฤติการณ์ในคดีนี้ เริ่มต้นจากผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่บ้านและต้องการหารายได้เสริมเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ได้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้เพจเฟซบุ๊กปลอมและบัญชีไลน์ ชักชวนให้ทำงานออนไลน์ โดยอ้างว่าจะมีรายได้สูงถึง 300-3,000 บาทต่อวัน

คนร้ายได้หลอกให้ผู้เสียหายร่วมทำกิจกรรมกับบริษัท โดยให้โอนเงินเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายสินค้า แล้วจะได้รับเงินทุนคืนพร้อมกับเงินปันผล 20-30% ของยอดที่โอน ในช่วงแรกมิจฉาชีพสร้างความน่าเชื่อถือโดยโอนเงินคืนพร้อมผลตอบแทนจริงเมื่อผู้เสียหายโอนเงินในจำนวนหลักพันบาท

แต่เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินในจำนวนที่สูงขึ้นถึงหลักแสนบาท กลุ่มคนร้ายกลับอ้างว่าผู้เสียหายทำผิดเงื่อนไข และจำเป็นต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการแก้ไขระบบจึงจะสามารถถอนเงินทั้งหมดคืนได้

ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปอีกหลายครั้ง แต่ก็ถูกอ้างว่าทำผิดเงื่อนไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งสูญเสียเงินไปทั้งสิ้นกว่า 500,000 บาท และไม่สามารถถอนเงินคืนได้เลย

เมื่อตระหนักว่าถูกหลอกลวง ผู้เสียหายจึงได้แจ้งกับแอดมินเพจว่าจะเข้าแจ้งความ แต่กลับถูกท้าทายให้ไปแจ้งความ โดยคนร้ายอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของผู้เสียหายเอง ไม่สามารถเอาผิดกับแอดมินได้ ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สำรอง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส. จ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีม้าที่คนร้ายใช้รับเงิน ได้มาพักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มที่ห้องเช่าใน อ.สามพราน จ.นครปฐม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมตัวได้ในที่สุด

จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำรอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองกับแฟนหนุ่มตกงาน ไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจเปิดบัญชีธนาคารจำนวน 7 บัญชี เพื่อนำไปขายให้กับเพจเฟซบุ๊กที่รับซื้อในราคาบัญชีละ 1,000 บาท ได้เงินมาทั้งหมด 7,000 บาท

และในวันที่ถูกจับกุมก็กำลังจะออกไปเปิดบัญชีเพื่อขายเพิ่มเติมอีก เพราะเห็นว่าเป็นช่องทางหาเงินที่ง่ายและต้องการเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

การปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.5 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ที่ 2 กก.5 บก.ป. ดำเนินการ

อ้างอิง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)