'คนละครึ่งพลัส เฟส 2' ไม่ได้ไปต่อ โฆษกรัฐบาล แจง ติดข้อกฎหมาย กกต.

'คนละครึ่งพลัส เฟส 2' ไม่ได้ไปต่อ โฆษกรัฐบาล แจง ติดข้อกฎหมาย กกต.

ปิดฉาก "คนละครึ่งพลัส เฟส 2" โฆษกรัฐบาลแจงติดข้อกฎหมาย กกต. ช่วงรักษาการ ยันไม่ได้แย่งงบเงินหมื่น ชี้โครงการเดิมถูกชะลอตามมติ ครม. เพื่อลงโครงสร้างพื้นฐาน

วันนี้ (23 ธ.ค. 68) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจยอดฮิต ยืนยัน "คนละครึ่งพลัส เฟส 2" ไม่สามารถไปต่อได้ในช่วงรัฐบาลรักษาการ พร้อมโต้กลับประเด็นดราม่างบประมาณโครงการเงินหมื่น

เหตุผลหลัก : ติดข้อกฎหมาย กกต. ช่วงรัฐบาลรักษาการ

นายสิริพงศ์ ระบุว่า หลังจากที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถดำเนินการโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในช่วงเปลี่ยนผ่าน

"ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนด้วยที่โครงการนี้ต้องระงับไปเนื่องจากข้อบังคับทางกฎหมายในช่วงรักษาการ" นายสิริพงศ์ กล่าว

โต้ข่าวลือ "เบรกเงินหมื่น" มาลง "คนละครึ่ง"

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงกรณีที่ นางมนพร เจริญศรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าโครงการเงินหมื่นถูกตีตกเพราะมีการโยกงบมาใช้ในโครงการ คนละครึ่ง โดยยืนยันว่า "ไม่เป็นความจริง" พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้

มติ ครม. เดิม 

  • เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้แถลงชัดเจนว่าต้อง "ชะลอ" โครงการเงินหมื่นเอง เพื่อนำงบประมาณไปใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นกว่า

งบประมาณคนละส่วน

  • โครงการคนละครึ่งพลัสใช้ งบกลาง สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เม็ดเงินประมาณ 40,000 กว่าล้านบาท ในขณะที่โครงการเงินหมื่นต้องใช้สูงถึง 100,000 ล้านบาทต่อเฟส

ความคุ้มค่า

  • นายสิริพงศ์ เปรียบเทียบว่า นโยบายของรัฐบาลปัจจุบันเน้น "กระตุ้นสั้นแต่ได้ผลยาวและกระจายตัว" ต่างจากบางนโยบายที่ถูกวิจารณ์ว่า "กระตุ้นสั้นแต่ซึมยาว"

ปัจจุบันไม่มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการเงินหมื่นไว้ในงบประมาณแผ่นดิน เนื่องจากการปรับเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนเอง ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่าโครงการคนละครึ่งมาแย่งงบประมาณจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง