สรุปมาตรการใหม่! กรมศุลฯ เก็บภาษีนำเข้าเริ่ม 1 บาท ดีเดย์ 1 ม.ค. 69

กรมศุลฯ จับมือ 5 แพลตฟอร์มยักษ์ เก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่ 1 บาทแรก เริ่ม 1 ม.ค. 69 แทนการยกเว้น 1,500 บาทเดิม เพื่อสร้างความเป็นธรรมและหนุนผู้ประกอบการไทย
กรมศุลกากร ลงนาม MOU ร่วมกับ 5 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Lazada, Shopee, SHEIN, TikTok Shop, TEMU) เตรียมจัดเก็บอากรขาเข้า สินค้านำเข้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป เริ่ม 1 มกราคม 2569 นี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทย และยกระดับมาตรฐานสินค้าออนไลน์
สรุปมาตรการใหม่ : เก็บภาษีสินค้านำเข้า 1 บาทแรก
นายพันธุ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป กรมศุลกากรจะยกเลิกการยกเว้นอากรสำหรับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท และจะเริ่ม จัดเก็บอากรสำหรับสินค้านำเข้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ทันที เพื่อปิดช่องว่างทางภาษีที่ทำให้สินค้าต่างประเทศได้เปรียบด้านต้นทุน
5 แพลตฟอร์มที่ร่วมลงนาม (MOU)
- Lazada (ลาซาด้า)
- Shopee (ช้อปปี้)
- SHEIN (ชีอิน)
- TikTok Shop (ติ๊กต๊อก ช็อป)
- TEMU (เทมู)
เปิดอัตราภาษีใหม่ : สินค้ากลุ่มไหนโดนเท่าไหร่?
การจัดเก็บภาษีครั้งนี้จะอ้างอิงตามพิกัดอัตราศุลกากร โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง "สินค้าแฟชั่น" จะมีอัตราภาษีดังนี้:
- เสื้อผ้าและรองเท้า : จัดเก็บอากรขาเข้าประมาณ 30%
- กระเป๋า : จัดเก็บอากรขาเข้า 20%
- สินค้าอื่นๆ : จัดเก็บตามประเภทและวัสดุ (เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20%)
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มส่วนใหญ่จะรวมภาษีและอากรไว้ในราคาสินค้าบนหน้าเว็บแล้ว ทำให้ผู้ซื้อจ่ายเงินจบในครั้งเดียว (ยกเว้นการส่งผ่านไปรษณีย์ไทยที่อาจมีการเรียกเก็บ ณ ขั้นตอนนำจ่าย)
ทำไมต้องเก็บภาษี? คาดรัฐรายได้พุ่ง 3,000 ล้าน
กรมศุลกากร คาดการณ์ว่าใน ปี 2569 จะมีการนำเข้าสินค้าสูงถึง 250 ล้านกล่อง มูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้านบาท การจัดเก็บภาษีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักคือ:
- สร้างความเป็นธรรมทางการค้า : ปกป้อง SME และผู้ประกอบการไทยไม่ให้เสียเปรียบด้านราคากับสินค้านำเข้าราคาถูก
- คุ้มครองผู้บริโภค : กรองสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (ไม่มี อย. หรือ มอก.) โดยแพลตฟอร์มจะช่วยสกัดกั้นสินค้าผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง
- เพิ่มรายได้รัฐ : คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี
เสียงสะท้อนจากภาคเอกชน
ดร.ธมกร ศุภธนรังสี รองประธานฝ่ายรัฐสัมพันธ์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด ระบุว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตอย่างถูกต้อง แม้ในช่วงแรกผู้ขายอาจต้องปรับตัว แต่ในระยะยาวจะเป็นผลบวกต่อระบบนิเวศการค้าออนไลน์ที่ปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น โดยทางลาซาด้าได้เตรียมความพร้อมและสื่อสารกับผู้ขายต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว







