กองขยะหลังน้ำลด อันตรายต่อระบบหายใจ เช็กกลุ่มเสี่ยง วิธีป้องกัน

กองขยะหลังน้ำลด ปล่อยฝุ่นและก๊าซพิษ ทำลายระบบหายใจ! กรมอนามัยเตือนภัยสุขภาพ พร้อมแนะวิธีป้องกันตนเองด่วน! เช็กเลย กลุ่มเสี่ยงมีใครบ้าง และต้องทำอย่างไรให้ปลอดภัย
ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย สิ่งที่ต้องเร่งจัดการคือ "ขยะตกค้าง" จำนวนมหาศาล ซึ่งนอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นรบกวนแล้ว ยังเป็นแหล่งกำเนิดของ ฝุ่นละอองและก๊าซพิษอันตราย ที่ปนเปื้อนในอากาศและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้จุดพักขยะ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกำจัดขยะ โดยได้ออกมาเตือนภัยและแนะนำแนวทางการป้องกันตนเองอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเสี่ยงจากมลพิษเหล่านี้
ผลกระทบสุขภาพที่ตามมาหลังน้ำลด: ไม่ได้มีแค่กลิ่นเหม็น!
ขยะที่หมักหมมหลังน้ำลดสามารถปล่อยสารพิษและฝุ่นละอองที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน:
- โรคระบบทางเดินหายใจ : การสูดดมฝุ่นและก๊าซพิษเข้าไป ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ แสบคอ หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นได้
- ปัญหาผิวหนังและการติดเชื้อ : ฝุ่นและสิ่งสกปรกในอากาศสามารถทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อได้ง่าย
- สุขภาพจิต : การต้องใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีขยะจำนวนมาก อาจนำมาซึ่งความเครียดและวิตกกังวลต่อสุขภาพจิตได้
- ระคายเคืองตา : ฝุ่นละอองส่งผลเสียต่อดวงตาโดยตรง อาจทำให้เกิดอาการ ตาแห้ง, ตาแดง, เคืองตา และคันตา
ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ?
กรมอนามัยย้ำว่า กลุ่มบุคคลต่อไปนี้มีความเสี่ยงสูงที่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ:
- ประชาชนในพื้นที่ : โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ, เด็กเล็ก, หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน : พนักงานกวาดขยะ, เจ้าหน้าที่กำจัดขยะ และบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากขยะ
4 วิธีสำคัญ! ป้องกันตัวเองจาก "ฝุ่น-ก๊าซพิษ" จากกองขยะ
เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี กรมอนามัยขอแนะนำแนวทางการป้องกันตนเองดังนี้:
- สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน : สวม หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน และ แว่นตา ทุกครั้งที่ต้องออกนอกอาคารหรืออยู่ใกล้กองขยะ หากหน้ากากไม่กระชับ หายใจลำบาก ฉีกขาด หรือเปียกน้ำ ให้รีบเปลี่ยนทันที และห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น
- สังเกตอาการผิดปกติ : หากมีอาการระคายเคืองตา ตาแดง ผื่นคัน หรือไอ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น และถ้าอาการรุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์
- ดูแลสุขอนามัยภายใน : ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสีย
- ทำความสะอาดร่างกายทันทีหลังปฏิบัติงาน : เจ้าหน้าที่ควรเร่ง เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ ล้างหน้า ล้างมือให้สะอาด ทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจ
ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มเสี่ยง : ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงหรือลดระยะเวลา ในการทำกิจกรรมนอกอาคารให้น้อยที่สุดในช่วงที่มีฝุ่นและมลพิษสูง







