สั่งปิดเส้นทางเสี่ยง ทางหลวง 224 เฝ้าระวังปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา

สั่งปิดเส้นทางเสี่ยง ทางหลวง 224 เฝ้าระวังปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา

รัฐบาลสั่งปิดทางหลวง 224 (บุรีรัมย์) และทางหลวง 3 (ตราด) เฝ้าระวังปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเร่งอพยพประชาชนเข้าศูนย์พักพิงกว่า 8 หมื่นคน

วันนี้ (14 ธ.ค. 68) จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา รัฐบาลไทยโดยการนำของ นางสาวอัยรินทร์ พันธุฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันว่า รัฐบาลกำลังติดตาม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือ เดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

ภารกิจเร่งด่วน : อพยพกลุ่มเปราะบางและการคมนาคมในศูนย์พักพิง

นางสาวอัยรินทร์ เน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับ ความปลอดภัยของประชาชน การอพยพกลุ่มเปราะบาง และการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมในพื้นที่ศูนย์พักพิง โดยได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งสนับสนุนภารกิจของจังหวัดและฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุดในจังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบ

อัพเดทสถานการณ์และการช่วยเหลือรายจังหวัด

การปะทะส่งผลกระทบในหลายจังหวัดชายแดน โดยมีรายละเอียดการดำเนินการ ดังนี้

บุรีรัมย์ : ปิดเส้นทาง อพยพกลุ่มเปราะบาง

  • เกิดเหตุปะทะที่อำเภอบ้านกรวด บริเวณช่องสายตะกู
  • มีการสั่ง อพยพประชาชน จากอำเภอบ้านกรวดและอำเภอละหานทราย
  • งดใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 224 (บ้านกรวด–ละหานทราย–พนมดงรัก) เพื่อความปลอดภัย
  • สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ สนับสนุนรถ 10 คัน สำหรับอพยพกลุ่มเปราะบางไปยังสถานพยาบาลและศูนย์พักพิง

สุรินทร์ : ยอดผู้อพยพกว่า 80,000 คน

  • สถานการณ์ยังคงมีในหลายพื้นที่ชายแดน
  • มีผู้อพยพเข้า ศูนย์พักพิงชั่วคราว กว่า 80,000 คน ใน 145 แห่ง
  • สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ จัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะดูแลศูนย์พักพิง พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดูแลความปลอดภัยและสร้างขวัญกำลังใจ

ตราด : ปิดเส้นทางชั่วคราว อพยพเจ้าหน้าที่ทางหลวง

  • กรมทางหลวงรายงานเหตุ ลูกกระสุนตกบนทางหลวงหมายเลข 3 ตอนแม่น้ำตราด–หาดเล็ก
  • ต้อง ปิดเส้นทางบางช่วงเป็นการชั่วคราว
  • หน่วยงานความมั่นคงได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่ตัวเมืองตราด
  • แขวงทางหลวงตราดดำเนินการอพยพหมวดทางหลวงในพื้นที่เสี่ยง (แหลมกลัด, ช้างทูน, ด่านชุมพล) ไปปฏิบัติงานในพื้นที่ปลอดภัย

รัฐบาลยืนยัน : ดูแลประชาชนเต็มที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

รองโฆษกฯ อัยรินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลกำชับให้ทุกหน่วยงานติดตามและรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของงานคมนาคม ได้มีการ ปรับแผนการเดินรถและการใช้เส้นทาง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง พร้อมสนับสนุนการอพยพและศูนย์พักพิงในทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ

รัฐบาลขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนว่า จะยืนหยัดอยู่เคียงข้าง และจะให้การดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จนกว่าสถานการณ์ความไม่สงบจะคลี่คลายลงในที่สุด