เปิดสถิติท่องเที่ยว 5 อันดับ ปีงบฯ 68 'เขาใหญ่' ซิวอันดับ 1 แห่เที่ยวทะลุ 2.14 ล้านคน

เปิดสถิติท่องเที่ยว 5 อันดับ ปีงบฯ 68 'เขาใหญ่' ซิวอันดับ 1 แห่เที่ยวทะลุ 2.14 ล้านคน กรมอุทยานฯ เตรียมพร้อมรับ 'ไฮซีซั่น-ปีใหม่ 2569' เน้นความปลอดภัย ขยะอาหารเป็นศูนย์
วันนี้ (12 ธันวาคม 2568) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้สั่งการให้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะหลั่งไหลเข้าสู่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยเน้นย้ำ 'ความปลอดภัย' ของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ พร้อมผลักดันนโยบาย 'ขยะอาหารเป็นศูนย์' (Zero Food Waste) เพื่อมุ่งสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและได้มาตรฐานสากล
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของรองนายกฯ อย่างเร่งด่วน โดยเสริมมาตรการความปลอดภัยในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จัดตั้ง 'ศูนย์ปฏิบัติการบริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่' ในทุกอุทยานแห่งชาติ จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและชุดกู้ภัยประจำการตามจุดเสี่ยง พร้อมอุปกรณ์กู้ชีพทันสมัย และระบบส่งต่อผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนภารกิจของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด จัดระเบียบการจราจร ป้องกันความแออัด ติดตั้งป้ายเตือน ไฟส่องสว่าง และราวกั้นในจุดเสี่ยงริมหน้าผาหรือทางลาดชัน พร้อมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง
ด้านเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความสะอาดห้องน้ำ ลานกางเต็นท์ บ้านพัก และระบบสาธารณูปโภคให้พร้อมใช้งาน จัดเตรียมจุดพักรถและบริการน้ำดื่มฟรี พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลที่มีเจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาต่างประเทศได้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่
กรมอุทยานฯ ยังคงเน้นย้ำการรักษาความสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ ผ่านมาตรการสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดผ่านโครงการ 'ขยะคืนถิ่น' รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวนำขยะกลับออกจากอุทยานฯ หรือทิ้งในจุดคัดแยกที่จัดไว้ ห้ามนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและภาชนะโฟมเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ พร้อมผลักดันนโยบาย 'ขยะอาหารเป็นศูนย์' รณรงค์ให้ลดปริมาณขยะอาหาร การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งเสริมการนำภาชนะใช้ซ้ำมาใส่อาหารและเครื่องดื่ม
นอกจากนี้ ยังให้นักท่องเที่ยวงดเว้นการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าเขตอุทยานฯ งดส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ป่า ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า และห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่อุทยานฯ ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทางทะเล ยังกำหนดให้นักท่องเที่ยวห้ามใช้กันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่กระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล โดยเฉพาะปะการัง
ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม กรมอุทยานฯ ได้ให้ทุกอุทยานแห่งชาติมีพัฒนาเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เช่น
ภาคเหนือ : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา (น่าน), กิ่วแม่ปาน-อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (เชียงใหม่), อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (อุตรดิตถ์), ภูชี้ฟ้า-อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เชียงราย)
ภาคกลาง/ตะวันออก : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (นครนายก, สระบุรี, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี)
ภาคกลาง/ตะวันตก : ยอดเขาโมโกจู-อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (กำแพงเพชร/นครสวรรค์), ยอดเขาเย็น/ยอดเขาขนุน-อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า (กำแพงเพชร/ตาก)
แหล่งทะเล : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (กระบี่), อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลัน (พังงา), อุทยานแห่งชาติตะรุเตา (สตูล), อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (ระยอง)
สถิตินักท่องเที่ยว (ปีงบฯ 2568) มีนักท่องเที่ยวรวม 19,332,396 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่
- เขาใหญ่ (2.14 ล้านคน)
- หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (1.87 ล้านคน)
- เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (1.04 ล้านคน)
- ดอยอินทนนท์ (8.65 แสนคน)
- น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี (6.05 แสนคน)
ซึ่ง กรมอุทยานฯ สามารถจัดเก็บรายได้กว่า 2,208 ล้านบาท
นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุทยานฯ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยมาตรฐานการบริการที่ดีที่สุด ทั้งด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืนสืบต่อไป
ทั้งนี้ หากพบเหตุฉุกเฉิน สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ทันที หรือโทรสายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง







