แก๊งสแกมเมอร์ สาวสวยหลอกเทรดทองผ่านแอปฯ 11 ล้าน บุกจับสาวแสบ

ภัยออนไลน์ แก๊งสแกมเมอร์ หลอกลงทุน สาวสวยหลอกเทรดทองผ่านแอปฯ 11 ล้าน บุกจับสาวแสบพร้อมก๊วน 6 ราย
กรณีภัยออนไลน์ แก๊งสแกมเมอร์ หลอกลงทุน สาวสวย หลอกเทรดทอง ผ่านแอปฯ 11 ล้าน บุกจับสาวแสบพร้อมก๊วน 6 ราย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ชายหญิง 6 ราย ตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
- ซ่องโจร
- ฟอกเงิน
สามารถกระจายกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ในหลายพื้นที่
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ถูกหญิงสาวที่ใช้โปรไฟล์สวยงามน่าเชื่อถือ ทักเข้ามาพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนเทรดทองคำในตลาดโลกระยะสั้นภายใน 10-20 นาที ผ่านแอปพลิเคชันปลอมที่คนร้ายสร้างขึ้น
โดยอ้างว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยวิเคราะห์แนวโน้มและส่งสัญญาณการซื้อขายให้ ผู้เสียหายเกิดความหลงเชื่อจึงได้ร่วมลงทุนไปหลายครั้ง รวมเป็นเงินมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 11,645,000 บาท
ต่อมาเมื่อผู้เสียหายพยายามเข้าใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวอีกครั้ง กลับไม่สามารถเข้าใช้งานได้และแอปฯ ได้หายไปจากโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งไม่สามารถติดต่อหญิงสาวคนดังกล่าวได้อีกเลย จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวง และได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. พบว่าเครือข่ายของคนร้ายกลุ่มนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการอย่างชัดเจน โดยใช้ช่องทางการรับเงินจากผู้เสียหายถึง 3 รูปแบบ คือ
1. โอนเข้าบัญชีม้าแล้วนำไปแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) เพื่อส่งต่อไปยังกระเป๋าเงินที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของได้
2. นัดหมายเพื่อส่งมอบเงินสดโดยตรงกับคนร้ายตามร้านกาแฟในพื้นที่กรุงเทพฯ และราชบุรี ก่อนจะนำเงินไปส่งมอบให้กับหัวหน้าใหญ่ชาวจีน
3. โอนเข้าบัญชีของขบวนการที่รับจ้างถอนเงินสดโดยเฉพาะ เพื่อนำเงินไปมอบให้หัวหน้าชาวจีนเช่นเดียวกัน
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ 7 ราย และติดตามจับกุมมาได้ 6 ราย ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งกลุ่มบัญชีม้า, กลุ่มรับเงินสดจากผู้เสียหาย และกลุ่มขบวนการเบิกถอนเงินสด
พร้อมกันนี้ได้ทำการตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ ประกอบด้วย เงินสด จำนวน 1,196,100 บาท, สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 1 เส้น, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง, เครื่องนับเงินสด จำนวน 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 6 เล่ม, หนังสือเดินทาง จำนวน 1 เล่ม, รถยนต์ จำนวน 2 คัน, บัตรกดเงินสด จำนวน 14 ใบ, เสื้อผ้าที่ใช้ในวันที่กระทำความผิด จำนวน 6 ชุด และ Ipad จำนวน 1 เครื่อง
จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และปฏิเสธบางคน
การปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ดำเนินการ
อ้างอิง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)







