โรคลาตินอเมริกา มาถึงเมืองไทยใกล้สมบูรณ์แล้ว

โรคลาตินอเมริกา มาถึงเมืองไทยใกล้สมบูรณ์แล้ว

อาการล่าสุดที่บ่งชี้ว่า โรคลาตินอเมริกามาถึงเมืองไทยใกล้สมบูรณ์แล้ว ได้แก่ ปรากฏการณ์ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ไทยเอื้อให้มีการสร้างห้องบริการพิเศษและนำนางแบบสาวจีนเข้าไปให้บริการแก่กลุ่มนักโทษที่มีสมญาว่า “จีนเทา”

ทันทีที่เรื่องถูกตีแผ่ออกมา มีผู้อ้างว่าไทยไม่ต่างกับโคลอมเบียแล้วเนื่องจากที่นั่นเคยมีปรากฏการณ์ให้หัวหน้าองค์กรอาชญากรรมที่ค้ายาเสพติดเป็นหลักสร้างคฤหาสน์หรูเพื่อคุมขังตัวเอง

อย่างไรก็ดี เรื่องแนวเดียวกับที่เกิดในเมืองไทยเกิดขึ้นในหลายประเทศลาตินอเมริการวมทั้งเม็กซิโก

สำหรับโรคลาตินอเมริกา ผมเคยสรุปเป็นกลอนไว้ว่า

“โรคลาตินอเมริกาสามขาเดี้ยง

ตุลาการทำงานเอียงรับทรัพย์สิน

รัฐสภาตรากฎหมายขายแผ่นดิน

บริหารการโกงกินคือเป้าเอย”

กลอนนั้นวางอยู่บนฐานของการบริหารบ้านเมืองตามหลักประชาธิปไตยที่แยกผู้ใช้อำนาจออกเป็น 3 ฝ่ายซึ่งทำงานอย่างเป็นอิสระตามหน้าที่โดยไม่มีความฉ้อฉล

ผมนำเรื่องโรคลาตินอเมริกามาเสนอครั้งแรกหลังรัฐบาลไทยนำแนวคิดเรื่องประชานิยมเข้ามาใช้เมื่อปี 2544 ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในหนังสือจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ในเครือเนชั่นกรุ๊ปชื่อ “ประชานิยม หายนะจากอาร์เจนตินาถึงไทย?”

เนื่องจากการใช้นโยบายประชานิยมมิได้จำกัดอยู่แค่ในอาร์เจนตินาเท่านั้น หากยังใช้อยู่ในหลายประเทศโดยเฉพาะในเวเนซุเอลาอีกด้วย

ผมจึงนำหนังสือเล่มนั้นมาขยายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นชื่อ “ประชานิยม ทางสู่ความหายนะ” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ ในปัจจุบัน ฟังเสียงอ่านหนังสือเล่มนี้โดยคุณสมลักษณ์ หุตานุวัตรได้ใน YouTube

การใช้นโยบายประชานิยมเริ่มโดยฝ่ายบริหารซึ่งต้องใช้งบประมาณ ตามหลักประชาธิปไตยซึ่งใช้อยู่ในหลายประเทศ งบประมาณที่ใช้โดยฝ่ายบริหารนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาก่อน

อย่างไรก็ตาม รัฐสภามักไม่เป็นอิสระอย่างแท้จริงจากฝ่ายบริหาร งบประมาณจึงเป็นไปตามความต้องการของฝ่ายบริหาร ความไม่เป็นอิสระเช่นนี้มีอยู่ทั่วไปในลาตินอเมริกา

โดยทั่วไปในเมืองไทย เมื่ออ้างถึงการใช้นโยบายประชานิยมจนทำให้ประเทศล่มจมมักนำกรณีของอาร์เจนตินามาเป็นตัวอย่าง

เนื่องจากอาร์เจนตินาเคยพัฒนาจนมีความมั่งคั่งไม่ต่างกับแคนาดาและประเทศก้าวหน้าในยุโรปทั้งหลายและนโยบายประชานิยมทำให้ล้มละลายส่งผลให้ประเทศพัฒนาแบบล้มลุกคลุกคลานเรื่อยมา 

อย่างไรก็ดี กรณีของเวเนซุเอลาร้ายแรงกว่ามาก เนื่องจากมีทรัพยากรมากกว่าอาร์เจนตินาโดยเฉพาะแหล่งน้ำมันปิโตรเลียมลำดับต้น ๆ ของโลก แต่กลายเป็นรัฐล้มเหลวแบบแทบจะสมบูรณ์

 ในปัจจุบัน ชาวเวเนซุเอลาส่วนใหญ่จึงยากจนและพยายามดิ้นรนออกไปหาเลี้ยงชีพในต่างประเทศโดยเฉพาะในโคลอมเบียและในสหรัฐซึ่งตอนนี้ไม่ต้อนรับ ตรงข้ามกำลังตามจับพวกเขาส่งคืนประเทศ 

เมื่อเวเนซุเอลาไม่เปิดรับคืน สหรัฐก็พยายามส่งไปจำคุกในประเทศที่สาม ขณะนี้ประเทศทั้งสองมีความขัดแย้งกันรุนแรงถึงขั้นสหรัฐส่งกองทัพนำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเข้าไปในน่านน้ำใกล้เวเนซุเอลาและขู่ว่าจะโจมตีเมื่อไรก็ได้ การโจมตีอาจเกิดขึ้นแล้วก่อนการตีพิมพ์บทความนี้ในวันที่ 28 พ.ย.

นโยบายประชานิยมอาจไม่ทำให้ล่มจมเร็วนัก หากผู้ใช้ไม่ฉ้อฉลและรักษาวินัยทางการเงินการคลังไว้บ้าง แต่การใช้นโยบายประชานิยมมักมาคู่กับความฉ้อฉลอย่างกว้างขวาง ทั้งสองประเทศที่อ้างถึงขาดวินัยทางการเงินการคลังพร้อมทั้งมีความฉ้อฉลสูง

อย่างไรก็ดี ดัชนีชี้วัดความฉ้อฉลขององค์กรความโปร่งใสสากลล่าสุดบ่งว่า อาร์เจนตินามีความฉ้อฉลต่ำกว่าไทยซึ่งช่วงนี้เป็นที่ประจักษ์ว่ามีอยู่ทั้งในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการอย่างทั่วถึง

จึงมีปรากฏการณ์อดีตนายกรัฐมนตรีกำลังถูกจำคุกกับหนีคดีไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ มีปรากฏการณ์บริการพิเศษในคุก มีสมาชิกรัฐสภาถูกจำคุกเพราะขโมยสินทรัพย์จากศพ ทั้งยังมีการย้ายพรรคกันชุลมุนก่อนการเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และมีถุงขนมที่ซุกเงินสดไว้ถูกหิ้วเข้าไปในศาล

ไทยใช้นโยบายประชานิยมเต็มรูปแบบแล้ว และมีความฉ้อฉลสูงกว่าอาร์เจนตินา แต่ยังไม่ไร้วินัยทางการเงินการคลังมากนัก หากวินัยนี้เสียไป เมืองไทยจะเผชิญกับวิกฤติใหญ่หลวงเพราะติดโรคลาตินอเมริกาแบบสมบูรณ์