สู้ PM2.5! มท. ระดม กอปภ.ก. เตรียมรับมือ 'ฝุ่นภาคกลาง' ธ.ค. - ก.พ.

สู้ PM2.5! มท. ระดม กอปภ.ก. เตรียมรับมือ 'ฝุ่นภาคกลาง' ธ.ค. - ก.พ.

สู้ PM2.5! มท. ระดม กอปภ.ก. เตรียมรับมือ 'ฝุ่นภาคกลาง' ธ.ค. - ก.พ. รมช. มท. 'ศักดิ์ดา' สั่งเดินหน้า "วัฒนธรรมไม่เผา"! พร้อมเข้มรถควันดำ-โรงงาน

วันนี้ (25 พ.ย. 68) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อเร่งรัดมาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ภาคกลาง โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ทั้งในระดับส่วนกลางและท้องถิ่น เพื่อลดค่าฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรมและบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

สู้ PM2.5! มท. ระดม กอปภ.ก. เตรียมรับมือ 'ฝุ่นภาคกลาง' ธ.ค. - ก.พ.

PM2.5 ภาคกลาง: มท. ชี้ "การเผา" คือสาเหตุหลัก สั่งคุมเข้มทุกมิติ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องที่รัฐบาล ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยสุขภาพของประชาชนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่ภาคกลางมักประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน

"จากสถิติที่ผ่านมา สาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคกลางมาจากการเผา จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมและลดมลพิษอย่างเข้มข้น ทั้งในพื้นที่ป่า อุทยาน และพื้นที่การเกษตร ซึ่งผมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันสร้าง 'วัฒนธรรมการไม่เผา' เพื่อลดการปล่อยมลพิษในช่วงวิกฤตฝุ่น"

สู้ PM2.5! มท. ระดม กอปภ.ก. เตรียมรับมือ 'ฝุ่นภาคกลาง' ธ.ค. - ก.พ.

มาตรการสำคัญเพื่อลด PM2.5 เร่งด่วน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการและเน้นย้ำมาตรการหลักที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ได้แก่:

  • ควบคุมและลดการเผา: บังคับใช้กฎหมายการเผาในพื้นที่ป่าและเกษตรกรรมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ลดมลพิษในเขตเมือง: ตรวจจับและบังคับใช้กฎหมายกับรถควันดำอย่างจริงจัง
  • ควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม: ดำเนินการเชิงรุก ตรวจสอบและดำเนินมาตรการตามกฎหมายทันที โดยไม่ต้องรอการร้องเรียน
  • จัดการฝุ่นจากการก่อสร้าง: บังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการและโครงการก่อสร้างให้ปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองอย่างจริงจัง

ใช้กลไกท้องถิ่น 'เคาะประตูบ้าน' สร้างความเข้าใจ

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเสริมว่า การใช้กลไกในระดับท้องถิ่น-ท้องที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา โดยเน้นให้จังหวัดใช้กลไกนี้ในการ:

  • เฝ้าระวังติดตาม และป้องปรามการลักลอบเผา
  • บูรณาการร่วมกับสาธารณสุข เพื่อ "เคาะประตูบ้าน" พูดคุยสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนถึงผลกระทบต่อสุขภาพ กฎหมาย และบทลงโทษ
  • PM2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาว

สู้ PM2.5! มท. ระดม กอปภ.ก. เตรียมรับมือ 'ฝุ่นภาคกลาง' ธ.ค. - ก.พ.

ปภ. เตรียมระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast เมื่อค่าฝุ่นแตะ "สีแดง"

ด้านนายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรฯ, ทส., สตช., กระทรวงอุตสาหกรรม, และจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ได้วางแผนรับมือสถานการณ์ในปีนี้แล้ว

ปภ. จะติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง และหากค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกิน 75.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ระดับสีแดง) ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ปภ. จะส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ (Cell Broadcast) ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบทันที