หาดใหญ่น้ำท่วมวิกฤต สะพานหาดใหญ่ใน น้ำขึ้นสูงท่วมรถยนต์แล้ว

หาดใหญ่น้ำท่วมวิกฤต สะพานหาดใหญ่ใน น้ำขึ้นสูงท่วมรถยนต์แล้ว ด้านทีมกู้ภัยแม่โจ้-เชียงใหม่ เร่งรุดข้ามภาค พร้อมเรือท้องแบน 5 ลำ รถยกสูง ช่วยชาวใต้
หาดใหญ่ไม่ไหวแล้ว! น้ำท่วมวิกฤต ภาพสะเทือนใจน้ำปริ่มท่วมรถยนต์แล้ว บนสะพานหาดใหญ่ใน น้ำขึ้นสูง ด้านทีมกู้ภัยแม่โจ้-เชียงใหม่ เร่งรุดข้ามภาค พร้อมเรือท้องแบน 5 ลำ รถยกสูง ช่วยชาวใต้
วิกฤตน้ำท่วม "หาดใหญ่" ล่าสุด 25 พ.ย. 68
สถานการณ์ น้ำท่วมหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ยกระดับสู่ขั้นวิกฤตในช่วงเช้าวันนี้ 25 พฤศจิกายน 2568 โดยเฉพาะรายงานล่าสุดที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนและหน่วยงานกู้ภัยทั่วประเทศ
สะพานหาดใหญ่ใน จุดวิกฤตที่น้ำจ่อกลืนรถ
เมื่อเวลา 06.37 น. หน่วยกู้ภัยแม่โจ้ ได้รายงานสถานการณ์ผ่านช่องทางสื่อสารฉุกเฉินว่า ระดับน้ำบน สะพานหาดใหญ่ใน ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับที่ "จะจมรถยนต์แล้ว"
ซึ่งบ่งชี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวกำลังเผชิญกับภาวะน้ำท่วมที่อันตรายถึงชีวิตและทรัพย์สินอย่างยิ่ง สมาคมกู้ภัยในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประเมินและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดค้างในพื้นที่วิกฤตอย่างต่อเนื่อง
จากเหนือสู่ใต้ ภารกิจข้ามภาค "กู้ภัยเชียงใหม่" ช่วยหาดใหญ่
เพื่อเสริมกำลังและเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย สมาคมกู้ภัยแม่โจ้ และทีมกู้ภัยจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตัดสินใจเดินหน้าภารกิจสำคัญในการเดินทางข้ามภาคจากภาคเหนือสู่ภาคใต้
ทีมกู้ภัย ได้ระดมกำลังพลและอุปกรณ์สำคัญเพื่อใช้ในการกู้ภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะ ประกอบด้วย
- เรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ จำนวน 5 ลำ
- รถยกสูง สำหรับลุยน้ำ
- รถกู้ภัย ที่เตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่วิกฤต
อัปเดตความคืบหน้า ถึงสุพรรณบุรี มุ่งสู่ประตูภาคใต้
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. มีรายงานความคืบหน้าของทีมกู้ภัยจากเชียงใหม่ โดยทีมกู้ภัยรวม 3 หน่วย พร้อมเรือทั้ง 5 ลำ ได้เดินทางถึง อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว และกำลังเตรียมเข้าสู่เส้นทางหลักเพื่อมุ่งหน้าสู่ "ประตูภาคใต้" โดยมีเป้าหมายหลักคือการเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสงขลาโดยเร็วที่สุด
ขอให้ประชาชนในพื้นที่หาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ หรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เฝ้าระวัง สถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ให้ติดต่อหน่วยงานกู้ภัยในพื้นที่ทันที







