‘ศิลปกรรมฯ มมส.’ แถลงการณ์ ประเด็น บุคลากรคณะ คุกคามทางเพศนิสิต

ล่าสุด “คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์” มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) แถลงการณ์ ประเด็นเรื่อง บุคลากรคณะคุกคามทางเพศนิสิต ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

แถลงการณ์คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) โดยมีการกล่าวพาดพิงถึงบุคลากรของคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในประเด็นเรื่อง คุกคามทางเพศนิสิต ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีการระบุว่ามหาวิทยาลัยเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ดังกล่าวจนนำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อนในวงกว้าง นั้น

คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาคมและสังคม ได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนี้

1. การให้ความเป็นธรรมและคุ้มครองสิทธิ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ ยึดมันมันในหลักธรรมาภิบาล โดยให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งต่อนิสิตผู้ร้องเรียนและบุคลากรผู้ถูกกล่าวหา และให้ความคุ้มครองสวัสดิภาพความเป็นส่วนตัวของนิสิต โดยได้มอบหมายให้อาจารย์ในคณะที่นิสิตไว้วางใจในการให้คำปรึกษาและแจ้งความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่เข้ามาศึกษาในคณะ ฯ 

และคณะฯ ได้ดำเนินการถอนรายชื่อบุคลากรที่ถูกกล่าวหาออกจากรายวิชาที่นิสิตลงทะเบียนเรียน เพื่อไม่ไม่ให้กระทบต่อสภาพจิตใจของนิสิตและเหตุที่ไม่พึงประสงค์ คณะฯ ยืนยันเจตนารมณ์ในการปกป้องและยืนหยัดเคียงข้าง นิสิตอย่างเต็มที่และจะดำเนินการทุกวิถีทางในการป้องกันภัยคุกคามที่จะกระทบต่อร่างกายและสภาพจิตใจของนิสิต เพื่อให้คณะฯ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงสำหรับนิสิตกคน

2. มหาวิทยาลัยมิได้นิ่งนอนใจหรือละเลยต่อเรื่องร้องเรียน ทันทีที่ได้รับทราบเรื่อง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง และปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดยกระบวนการสอบสวนจะเป็นไปตามพยานหลักฐานและระเบียบของทางราชการ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
 

ในการนี้ เพื่อให้กระบวนการสอบสวนเป็นไปอย่างเรียบร้อยและยุติธรรม มหาวิทยาลัยใคร่ขอความร่วมมือจากทุกท่าน โปรดระมัดระวังในการส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลที่อาจมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย รวมถึงสร้างความเสียหายต่อสิทธิส่วนบุคคลของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มหาวิทยาลัย ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และจะให้ความเป็นธรรมตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอย่างตรงไปตรงมา