บุกจับ 'ข้าราชการ' กำนันผู้ใหญ่บ้าน หมายจับ 28 คน ต่างด้าวสวมบัตร ปชช.

อัปเดตล่าสุด ปฏิบัติการ บุกจับ 'ข้าราชการ' ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมายจับ 28 คน เปิดโปงขบวนการหากินกับคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชน
กรณีปฏิบัติการ บุกจับ 'ข้าราชการ' ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมหมายจับ 28 คน เปิดโปงขบวนการหากินกับคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชน
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนข้อเท็จจริงจากสำนักการสอบสวนและนิติการ และสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง บูรณาการร่วม 5 ห่วยงาน ประกอบด้วย กรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก.ปปป. บช.ก.) สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. และ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งได้ร่วมกันสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำมาสู่การขออนุมัติหมายจับบุคคล จำนวน 28 ราย
ประกอบด้วย
- เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 11 ราย แบ่งเป็นปลัดอำเภอ 2 ราย ลูกจ้างอำเภอ 4 ราย และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 5 ราย
- นายหน้าและบุคคลต่างด้าว อีกจำนวน 17 ราย
ซึ่งในจำนวนนี้จากการตรวจสอบเปรียบเทียบภาพใบหน้าและลายนิ้วมือจากฐานข้อมูล ระบบไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) ของกรมการปกครองและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปรากฏว่าพบบุคคลมีหนังสือเดินทางสัญชาติจีน จำนวน 3 รายการ
แบ่งกำลังออกเป็น 12 ชุด ดำเนินการดังนี้
1. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 12 ราย
2. ตรวจค้นพื้นที่ 12 แห่ง พบพยานหลักฐานสำคัญ เช่น ปืน สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารเกี่ยวกับทะเบียนคนต่างด้าว ฯลฯ
3. นำตัวผู้ถูกจับกุมและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
สามารถสอบสวนขยายผลเชิงลึกพบว่า ขบวนการนี้มีประวัติการเข้าถึงข้อมูลรายการทะเบียนราษฎรของบุคคลต่างด้าวที่สวมตัวเป็นคนไทยในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามและกรมการปกครองได้ร่วมกันจับกุมกลุ่มนายหน้าและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
จากกรณีมีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ รับจ้างจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย ผ่านแพลตฟอร์ม (Platform) โซเชียลมีเดีย(Social Media) ของประเทศจีน ชื่อ “เสี่ยวหงชู (XiaoHongShu)” โดยการกระทำผิดทั้งสองพื้นที่นี้น่าเชื่อว่า เชื่อมโยงเป็นขบวนการเดียวกัน จึงถือได้ว่ากลุ่มนายหน้าและเจ้าหน้าที่ของรัฐเหล่านี้เป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยอย่างร้ายแรง
หลังจากนี้ กรมการปกครองจะแจ้งให้จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการตรวจสอบและเร่งรัดเพิกถอนรายการทางทะเบียนที่ดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด และจะมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม โดยให้สำนักบริหารการทะเบียนตรวจสอบรายการทางทะเบียนคนต่างด้าวของอำเภอเวียงแหงที่ถูกตรวจยึดต่อไป
และจะให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนไปตรวจสอบท้องที่อื่นที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้อีก โดยหากตรวจพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้ใดหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตทางทะเบียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันกรมการปกครองได้ดำเนินมาตรการสำคัญในการป้องกันและปราบปรามโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ดังนี้
- ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติทางทะเบียน (Registration Alert System) ระบบนี้ช่วยตรวจจับความผิดปกติของสถิติงานทะเบียน และส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ตรวจสอบผ่านมือถือและแอปพลิเคชัน ThaiD ให้สามารถตรวจสอบได้ทันที
- ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV Evidence System)สำนักทะเบียนในพื้นที่สีแดง โดยได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมทุกจุดบริการ เก็บภาพไม่น้อยกว่า 3 เดือน และสามารถดึงขึ้นมาตรวจสอบย้อนหลังได้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีอย่างโปร่งใส







