ช็อก! ตายทะลุ 10,847 ศพ ตำรวจลุย 'สร้างวินัย" ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2569
หลังยอดเสียชีวิตทะลุ 10,847 ศพ! รอง ผบ.ตร. เร่งกวดขันวินัยจราจร สร้างสำนึก "เมาไม่ขับ" พร้อมนำ AI คุมไฟจราจรทั่วกรุงฯ หวังลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2569
วันนี้ (19 พ.ย. 68) พลตำรวจเอกสำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยผลการประชุมบริหารจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่ ที่ประสบปัญหารถหนาแน่นเกินศักยภาพของถนน
ยกระดับการจราจรด้วยมาตรการเข้มข้น
พล.ต.อ.สำราญ เน้นย้ำว่าที่ประชุมให้ความสำคัญกับ 2 ประเด็นหลัก คือ:
- เพิ่มความคล่องตัวของการจราจร : ร่วมกับหน่วยงานวิศวกรรม ออกแบบและกำหนดมาตรการให้การจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่อง
- ลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน : สร้างวินัยจราจรให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเดินทางช่วง เทศกาลปีใหม่ 2569
tragically ตัวเลขช็อก! เสียชีวิตกว่า 10,847 ราย ใน 11 เดือน
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 พฤศจิกายน 2568 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนไปแล้วกว่า 10,847 ราย ซึ่ง พล.ต.อ.สำราญ เปรียบเทียบว่าตัวเลขนี้ "ยังมากกว่าสงครามอีก" โดยช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบเยาวชนเสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์จำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาสำคัญคือ การไม่สวมหมวกนิรภัย
"ประชาชนมองว่าตำรวจจับปรับ แต่แท้จริงตำรวจต้องการลดการเสียชีวิต" - พลตำรวจเอกสำราญ นวลมา
บังคับใช้กฎหมายจริงจัง! เน้น "เมาไม่ขับ" และตรวจสอบจุดเสี่ยง
เพื่อลดความสูญเสียอย่างเป็นรูปธรรม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตรการเข้มงวด ดังนี้:
- เพิ่มความเข้มงวด : ตรวจเข้มในจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย และ ตรวจเข้มเมาแล้วขับ
- ตำรวจต้องเป็นแบบอย่าง : สั่งกำชับตำรวจทุกนายต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบกระทำผิดจะถูกดำเนินคดีทันที
- สำรวจและวิเคราะห์สาเหตุ : ทุกโรงพักต้องสำรวจและวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจาก สภาพถนน, พฤติกรรมผู้ขับขี่, หรือทัศนวิสัย เพื่อใช้เป็นข้อมูลรับมือช่วงปีใหม่
- กวดขันวินัยจราจรแบบมีเหตุผล : ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าการบังคับใช้กฎหมายคือ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว
- สำรวจจุดเสี่ยงทุกระดับ : เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมและลดมลภาวะจากรถติด
นำ AI ร่วมแก้ปัญหาจราจรยั่งยืน
ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการนำทีม วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาร่วมวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหารถติดอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการติดตั้ง ระบบ AI บริหารไฟจราจร ในประมาณ 20 จุด และเตรียมขยายผลให้ครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต
คดีใบสั่งค้างชำระนับหมื่น! เตือนประชาชนรีบชำระค่าปรับ
พล.ต.อ.สำราญ ทิ้งท้ายด้วยการเตือนประชาชนถึงปัญหา สำนวนคดีใบสั่งค้างชำระ ที่มีอยู่กว่า 12,000 คดี และมีการส่งฟ้องศาลไปแล้ว 768 คดี พร้อมย้ำว่าประชาชนไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรชำระค่าปรับตามกฎหมายเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม
คำกล่าวทิ้งท้ายที่กินใจ : พล.ต.อ.สำราญ ย้ำว่าเป้าหมายไม่ใช่การจับปรับ แต่คือการทำให้รถเคลื่อนที่ได้ไวขึ้น ลดการตายให้น้อยลง และลดมลภาวะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้าง สำนึกภายใน ของประชาชน "วันนี้บอกว่าเมาไม่ขับเพราะว่ากลัวตำรวจจับ อย่างนี้แก้ไม่ได้ แต่หากเราเมาแล้ว เรากลัวอุบัติเหตุที่จะเกิดกับคนอื่นก็ต้องขอขอบคุณมาก"