เปิดแผนสู้ PM2.5 รัฐ เร่งจัดห้องปลอดฝุ่น คุมเข้มแหล่งกำเนิดฝุ่น

เปิดแผนสู้ PM2.5 รัฐ เร่งจัดห้องปลอดฝุ่น คุมเข้มแหล่งกำเนิดฝุ่น

"รองนายกฯ โสภณ" สั่งเดินหน้าแผนสู้ PM2.5 เต็มสูบ! ย้ำ 5 มาตรการหลัก พร้อมเร่งจัดตั้ง "ห้องปลอดฝุ่น" ดูแลกลุ่มเสี่ยง และบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นคุมเข้มแหล่งกำเนิดฝุ่น

วันนี้ (19 พ.ย. 68) นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เพื่อติดตามแนวโน้มสถานการณ์และมาตรการรับมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนทำงานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

เน้นการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการและความร่วมมือทุกภาคส่วน

นายโสภณ ซารัมย์ เปิดเผยว่า ปัญหา PM2.5 เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งสถานการณ์มักรุนแรงในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคมของทุกปี

เปิดแผนสู้ PM2.5 รัฐ เร่งจัดห้องปลอดฝุ่น คุมเข้มแหล่งกำเนิดฝุ่น

รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหา โดยเน้นย้ำ 5 มาตรการสำคัญ:

  1. การบริหารจัดการเชิงพื้นที่
  2. การลดมลพิษในเขตชุมชนเมือง
  3. การแจ้งเตือนและการสร้างการรับรู้
  4. การดูแลสุขภาพประชาชน
  5. การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

"การจะแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน... ขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง" นายโสภณกล่าว

เปิดแผนสู้ PM2.5 รัฐ เร่งจัดห้องปลอดฝุ่น คุมเข้มแหล่งกำเนิดฝุ่น

มอบหมายภารกิจเฉพาะเจาะจงแก่หน่วยงานหลัก

รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาทั้งใน ระยะสั้นและระยะยาว โดยชี้ว่าสาเหตุสำคัญของการเกิด PM2.5 คือ "การเผา" ในพื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร และพื้นที่ชุมชน/เมือง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานหลักดำเนินการอย่างจริงจัง ดังนี้:

  • กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : เฝ้าระวัง ควบคุมการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเข้มงวด และบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ : ควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรตามแนวทางที่กำหนด และส่งเสริมการนำเศษวัสดุทางการเกษตรไปแปรรูปแทนการเผา
  • กระทรวงคมนาคม : ตรวจสอบและตรวจจับยานพาหนะควันดำอย่างเคร่งครัด
  • กระทรวงอุตสาหกรรม : ตรวจวัดมลพิษทางอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม และใช้มาตรการจัดการกับโรงงานที่ปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวด
  • กระทรวงสาธารณสุข : ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ จัดเตรียม "ห้องปลอดฝุ่น" และ "พื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone)" รองรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง
  • กรมประชาสัมพันธ์ : เน้นการสื่อสารสถานการณ์ มาตรการ ข้อกฎหมาย และบทลงโทษให้ประชาชนทราบอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นหลักในการบูรณาการส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีระบบและสอดคล้องกับสถานการณ์จริง

ปภ. เตรียมใช้ Cell Broadcast แจ้งเตือนภัย "PM2.5 ระดับสีแดง"

ในส่วนของการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวสรุปถึงการทำงานของ ปภ. ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ที่ได้ติดตาม วิเคราะห์ และสนับสนุนการแก้ไขปัญหา รวมถึงการสนับสนุนเครื่องจักรกลและเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32

พร้อมกันนี้ รองอธิบดี ปภ. เปิดเผยมาตรการใหม่ที่สำคัญในปีนี้ว่า ปภ. จะเริ่มใช้การแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ (Cell Broadcast) โดยหากค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่า เกิน 75.1 มคก./ลบ.ม. (ระดับสีแดง) ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ปภ. จะส่งข้อความแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที