ฝนถล่มหนัก ภาคใต้ ต่อเนื่อง 7 วัน เตือน เฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำป่า

วันนี้ (19 พ.ย. 68) ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน รายงาน สถานการณ์น้ำ ล่าสุด ว่า หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร

สาเหตุและผลกระทบ : ฝนกระหน่ำต่อเนื่องถึง 23 พ.ย.

อิทธิพลของร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ร่วมกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ : สถานการณ์ฝนจะยังคงมีผลกระทบอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568

ความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง : สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้หลายพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

พื้นที่ฝนสูงสุดย้อนหลัง 24 ชั่วโมง: นครศรีฯ นำโด่ง!

จากการติดตามปริมาณฝนย้อนหลัง 24 ชั่วโมง (ณ วันที่ 19 พ.ย. 68) พบว่าหลายพื้นที่ มีปริมาณฝนสะสมสูงมาก ดังนี้:

- พื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี ปริมาณฝนสะสม 251 มม. (สูงสุด)

- พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีต.ปากแพรก อ.ดอนสัก ปริมาณฝนสะสม 244 มม.

- พื้นที่ จ.ชุมพรต.ปากละโก อ.พุ่มพวง ปริมาณฝนสะสม 168.6 มม.

กรมชลประทานสั่งการ เตรียมเครื่องจักรกล "พร้อมเข้าพื้นที่ทันที"

เพื่อบรรเทาผลกระทบจาก ฝนตกหนักภาคใต้ กรมชลประทานได้กำชับให้โครงการชลประทานในจังหวัดภาคใต้ทั้งหมด ติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยและอุปกรณ์บริหารจัดการน้ำต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้าปฏิบัติงานได้ทันทีในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่:

- เครื่องสูบน้ำ

- เครื่องผลักดันน้ำ

- อุปกรณ์บริหารจัดการน้ำต่าง ๆ

กรมชลประทาน เน้นย้ำว่า การเตรียมความพร้อมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ บรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วม ให้แก่ประชาชนชาวใต้ให้ได้มากที่สุดในช่วงวิกฤตนี้

ประชาชนควรทำอย่างไร?

- ติดตามข่าวสารจากทางราชการและกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

- เตรียมพร้อมรับมือ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง

- หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ของท่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง