ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ งบปี 2570 ขั้นตอนการยืนยันสิทธิ

ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ งบปี 2570 ขั้นตอนการยืนยันสิทธิ

“กรมกิจการผู้สูงอายุ” เปิดขั้นตอนการยืนยันสิทธิ ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ ปีงบประมาณ 2570 เช็กคุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับเบี้ย เอกสารที่ต้องใช้ วิธีรับเงิน อัตราการจ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได จ่ายเงินวันไหนในแต่ละเดือน

อัปเดตล่าสุด “กรมกิจการผู้สูงอายุ” เปิดขั้นตอนการยืนยันสิทธิ ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ ปีงบประมาณ 2570 เช็กคุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับเบี้ย เอกสารที่ต้องใช้ วิธีรับเงิน อัตราการจ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได จ่ายเงินวันไหนในแต่ละเดือน 

ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ งบปี 2570 ขั้นตอนการยืนยันสิทธิ

คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2570

  • เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 นับอายุถึง วันที่ 1 ก.ย. 2569 (เกิดก่อน 2 ก.ย. 2510)
  • หรืออายุเกิน 60 ปีแล้ว แต่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน
  • ไม่มีรายได้ หรือ รายได้ไม่พอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ช่วงเวลา “ยืนยันสิทธิ/ลงทะเบียน” เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2570

  • การยืนยันสิทธิ : ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2568
  • ช่วงเก็บตก : เดือนมกราคม – กันยายน 2569

การยืนยันสิทธิ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” ปีงบประมาณ 2570 ได้ที่ไหน

  • กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเขตที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
  • ต่างจังหวัด : ที่ว่าการอำเภอ, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ

ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ งบปี 2570 ขั้นตอนการยืนยันสิทธิ

เอกสารที่ต้องใช้ ลงทะเบียน “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” ปีงบประมาณ 2570

กรณีไปด้วยตนเอง

  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย (ตัวจริง)
  • ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ที่เป็นปัจจุบัน (ตัวจริง)
  • สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ ตัวจริงพร้อมสำเนา (ถ้ารับผ่านธนาคาร)

กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่น

  • หนังสือมอบอำนาจ (ลงลายมือชื่อผู้มอบอำนาจและพยานครบถ้วน)
  • สำเนาบัตรประชาชนผู้มีสิทธิ 1 ชุด
  • สำเนาทะเบียนบ้านผู้มีสิทธิ 1 ชุด
  • สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ 1 ชุด
  • สำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิหรือบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ 1 ชุด (ถ้ารับผ่านธนาคาร)

หมายเหตุ

กรณีผู้สูงอายุอยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน: มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถานหรือผู้ได้รับมอบหมาย ยื่นยืนยันสิทธิแทน ณ อปท. ตามภูมิลำเนา

ทุกสำเนา ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ทุกแผ่น

บัตรประชาชนต้องไม่หมดอายุ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลักปฏิบัติของแต่ละพื้นที่ โปรดสอบถาม อปท.พืันที่ของท่านอีกครั้งหนึ่ง)

แบบฟอร์มมอบอำนาจ/รายชื่อธนาคาร อาจต่างกันตามพื้นที่ ให้สอบถาม อปท.พืันที่ของท่านอีกครั้งหนึ่ง

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางพื้นที่ เริ่มเปิดให้บริการรับยืนยันสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในรูปแบบออนไลน์ เช่น สำนักงานเขตดอนเมือง 

วิธีรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เลือกได้ 1 วิธี

  • รับเงินสดด้วยตนเอง
  • รับเงินสดโดยผู้รับมอบอำนาจ
  • โอนเข้าบัญชีธนาคา ชื่อผู้มีสิทธิ
  • โอนเข้าบัญชีธนาคารชื่อผู้รับมอบอำนาจ

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2570 จ่ายเงินวันไหน

  • จ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน ถ้าตรงวันหยุด รัฐจ่ายวันทำการก่อนหน้า
  • เริ่มจ่ายเดือนถัดไป หลังยืนยันสิทธิและตรวจคุณสมบัติครบ ยกเว้นผู้ที่เกิดวันที่ 1 รับเงินในเดือนนั้นได้

“เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” จ่ายเท่าไร จ่ายเป็นรายเดือน อัตราแบบขั้นบันได

  • อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับ 600 บาท
  • อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับ 700 บาท
  • อายุ 80- 89 ปี จะได้รับ 800 บาท
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท

หมายเหตุ

การจ่ายเงินให้ผู้รับมอบอำนาจ: เมื่อยืนยันตัวบุคคลตรงตามมอบอำนาจ และยืนยันว่าผู้มีสิทธิยังมีชีวิตอยู่ ณ วันที่ 1 ของทุกเดือน (จ่ายเต็มเดือน)

กรณีรับเงินโดยสุจริตทั้งที่ “ไม่มีสิทธิ”: ให้ อปท. ตรวจข้อเท็จจริง รายงานผู้บริหาร และ ระงับการจ่าย ต่อไป (งดเรียกคืนในกรณีสุจริต)

การย้ายที่อยู่ (ย้ายภูมิลำเนา)

การยืนยันสิทธิ

  • ต้องไปยืนยันสิทธิที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่
  • การจ่ายเบี้ยยังชีพหลังยืนยัน
  • เมื่อยืนยันสิทธิเรียบร้อยแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่จะเริ่มจ่ายใน “เดือนถัดไป” โดยต้องได้รับการยืนยันข้อมูลจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิม

หากไม่ยืนยันสิทธิ

  • จะยังได้รับเงินเบี้ยยังชีพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมจนถึงสิ้นปีงบประมาณที่แจ้งย้ายเท่านั้น
  • กรณีล่าช้า/ยังไม่ดำเนินการ
  • หากยืนยันสิทธิไม่ทันภายในปีงบประมาณที่แจ้งย้าย ยังสามารถยืนยันสิทธิภายหลังได้และจะเริ่มรับเงินเบี้ยยังชีพในเดือนถัดไปหลังยืนยัน

สรุป: เมื่อย้ายบ้าน/ภูมิลำเนาแล้ว รีบยืนยันสิทธิที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่ เพื่อไม่ให้ขาดสิทธิการรับเบี้ยยังชีพในอนาคต

การสิ้นสุดการได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

  • ผู้มีสิทธิเสียชีวิต
  • ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์
  • ผู้มีสิทธิ ยื่นสละสิทธิเป็นหนังสือ ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

หมายเหตุ : กรณีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีผู้สูงอายุสิ้นสุดลง ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ สั่งระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสำหรับบุคคลดังกล่าวทันที

ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ งบปี 2570 ขั้นตอนการยืนยันสิทธิ