ปภ. สั่งเร่งระบายน้ำ 'เจ้าพระยา' พร้อมเตือน 5 จังหวัดใต้ รับมือฝนถล่ม

ปภ. เคาะแผนเร่งระบายน้ำท่วมขังเจ้าพระยาที่อยุธยา-ภาคกลาง เตรียมรับมือกลุ่มฝนหนักถล่ม ชุมพร-นครศรีธรรมราช และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่างอย่างใกล้ชิด
KEY
POINTS
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในภาคใต้
- ภาคกลาง (ลุ่มเจ้าพระยา) : กำชับเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ และเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัย
- ภาคใต้ (พื้นที่เฝ้าระวัง) : เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยประจำพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ลงไปถึงนราธิวาส ปัตตานี และยะลา
- เน้นย้ำ : การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งการดำรงชีพ การแพทย์ และการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด
วันนี้ (18 พ.ย. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดประชุมสำคัญเพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังคงได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่ง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้
นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายพื้นที่ในภาคกลาง โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และการเกษตรของประชาชนอย่างหนัก ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา บ่งชี้ว่า แม้ภาคเหนือและภาคกลางปริมาณฝนจะลดลงและอากาศเริ่มหนาวเย็นจากมวลอากาศเย็น แต่พื้นที่ภาคใต้กลับมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช และกลุ่มฝนจะเคลื่อนตัวลงสู่ภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา
ปฏิบัติการเร่งด่วน : ระบายน้ำ-เยียวยาภาคกลาง
ปภ. ได้ประสานจังหวัดพื้นที่ประสบภัยในภาคกลางให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งจัดส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าสนับสนุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง ศูนย์ ปภ. เขต 3 ปราจีนบุรี ได้ส่งรถสูบส่งระยะไกลและเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เข้าพื้นที่
นอกจากภารกิจด้านการระบายน้ำแล้ว รองอธิบดี ปภ. ยังได้เน้นย้ำให้จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านการดำรงชีพ การแพทย์ การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยตามมติคณะรัฐมนตรีให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด
ภาคใต้เตรียมพร้อมสูงสุด รับมือ 'น้ำท่วมฉับพลัน'
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ที่เข้าสู่ช่วงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมขัง ปภ. ได้สั่งการให้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้ง 4 ศูนย์ ได้แก่ เขต 4 (ประจวบคีรีขันธ์), เขต 11 (สุราษฎร์ธานี), เขต 12 (สงขลา), และ เขต 18 (ภูเก็ต) เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยไว้ประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถสนับสนุนจังหวัดได้ทันทีที่มีการร้องขอ
เบื้องต้น ศูนย์ ปภ. เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้สนับสนุนและติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดท่อส่ง 14 นิ้ว เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและพัทลุงแล้ว ขณะเดียวกันได้วางแผนสนับสนุนเครื่องจักรกลไปยังพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ เช่น ชุมพร และ นครศรีธรรมราช ตามคำร้องขอของจังหวัดอย่างเร่งด่วน
ช่องทางการแจ้งเหตุและติดตามสถานการณ์
ปภ. จะติดตามสถานการณ์น้ำในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews รวมถึงแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert”
หากประชาชนได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทาง:
- ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (เพิ่มเพื่อน Line ID: @1784DDPM)
- สายด่วนนิรภัย 1784







