น้ำล้นประเทศ! 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา เต็ม 99% เร่งระบายออกอ่าวไทย

น้ำล้นประเทศ! 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา เต็ม 99% เร่งระบายออกอ่าวไทย

4 เขื่อนหลักเจ้าพระยาเต็ม 99%! น้ำต้นทุนทั่วประเทศแตะ 91% กรมชลฯ เร่งผันน้ำลงอ่าวไทย พร้อมปรับลดระบายน้ำท้ายเขื่อน 20-24 พ.ย. นี้ เตรียมรับมือฤดูแล้ง!

วันนี้ (18 พ.ย. 68) ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำล่าสุด (18 พ.ย. 68) ที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยภาพรวมสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมสูงถึง 69,438 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น ร้อยละ 91 ของความจุรวมทุกอ่าง

ไฮไลท์สำคัญ

น้ำต้นทุนเพิ่มต่อเนื่อง : ปีนี้ประเทศไทยมีน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปริมาณฝนที่มากกว่าค่าเฉลี่ย

น้ำไหลลงอ่างสูงกว่าค่าเฉลี่ย : ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง สะสมรวมกว่า 53,680 ล้าน ลบ.ม. (1 ม.ค. – 18 พ.ย. 68) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 16 ปี ถึง ร้อยละ 33

4 เขื่อนหลักเจ้าพระยาเต็มศักยภาพ : เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวม 24,562 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น ร้อยละ 99 ของความจุอ่างฯรวมกัน (ใกล้เต็มความจุ)

น้ำล้นประเทศ! 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา เต็ม 99% เร่งระบายออกอ่าวไทย

สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาและแผนลดการระบาย

ปริมาณน้ำไหลผ่านนครสวรรค์ (C.2) : เวลา 12.00 น. มีอัตราไหลผ่านที่ 2,856 ลบ.ม./วินาที โดยกรมชลประทานรับน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกอย่างเต็มที่รวม 647 ลบ.ม./วินาที

น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา : ปัจจุบันมีปริมาณไหลผ่าน 2,688 ลบ.ม./วินาที

เตรียมลดการระบาย : คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 20 – 24 พฤศจิกายน 2568 จะสามารถ ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ลงเหลือ 2,400 – 2,700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงอีก 0.40 – 0.75 เมตร

น้ำล้นประเทศ! 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา เต็ม 99% เร่งระบายออกอ่าวไทย

การบริหารจัดการน้ำและการเตรียมพร้อมรับมือ

เร่งระบายน้ำ: กรมชลประทานยังคงเร่งระบายน้ำในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และใช้ โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการช่วยระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยในช่วงน้ำทะเลลง

เข้าสู่ฤดูส่งน้ำฤดูแล้ง : ขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูการส่งน้ำฤดูแล้งปี 2568/69 แล้ว และได้กำหนด ลำดับความสำคัญในการจัดสรรน้ำ ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ เพื่อให้การใช้น้ำของทุกภาคส่วนเพียงพอและยั่งยืน โดยครอบคลุมด้าน:

  1. อุปโภคบริโภค
  2. รักษาระบบนิเวศ
  3. การสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้า
  4. การเกษตร
  5. อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการท่องเที่ยว

เฝ้าระวังภาคใต้ : กรมชลประทานยังคงติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมพร้อมเครื่องจักรกล เครื่องมือ เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่เสี่ยง

สถานการณ์น้ำต้นทุนของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยาที่มีปริมาณน้ำเกือบเต็ม และเตรียมปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการบริหารจัดการน้ำเข้าสู่ฤดูแล้ง

ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม/น้ำล้นตลิ่ง ควรติดตามประกาศจากกรมชลประทานและหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับการลดระดับน้ำที่กำลังจะเกิดขึ้น