รัฐบาล ยืนยัน ใช้มาตรฐานสารหนู 0.01 มก./ล. ไม่ปรับตามเมียนมา

"รองนายกฯ สุชาติ" ลั่น! รัฐบาลยืนยัน "ไม่ปรับลด" มาตรฐานสารหนูในแหล่งน้ำผิวดิน ยึด $0.01$ มก./ล. ตามไทย ไม่ทำตามเมียนมา-จีน พร้อมยกระดับดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาปรับ ค่ามาตรฐานสารหนู (Arsenic) ใน แหล่งน้ำผิวดิน จากค่ามาตรฐานของประเทศไทยที่กำหนดไว้ ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร (มก./ล.) ไปเป็น 0.05 มก./ล. เพื่อให้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านและอีกหลายประเทศนั้น
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ออกมายืนยันและชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวอย่างชัดเจน
รัฐบาล ยืนยัน "ไม่ปรับลด" มาตรฐานสารหนูในแหล่งน้ำ
นายสุชาติ ชมกลิ่น เปิดเผยว่า ตามที่มีการตรวจพบ ปัญหา คุณภาพน้ำ ในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน ที่มี โลหะหนัก และ สารหนูเกินค่ามาตรฐาน แหล่งน้ำผิวดิน (สูงกว่า 0.01 มก./ล.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีแหล่งต้นน้ำมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ซึ่งอาจเป็นที่มาของปัญหาดังกล่าว
"ผมขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะปรับค่ามาตรฐานแหล่งน้ำผิวดิน จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 0.01 มก./ล. ไปเป็น 0.05 มก./ล. ตามที่เป็นข่าว" นายสุชาติกล่าวอย่างหนักแน่น
พร้อมฟังเสียงประชาชนและหาทางแก้ไขร่วมกัน
รมว.ทส. ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับ คุณภาพชีวิต และ ความปลอดภัยของประชาชน เป็นอันดับแรก และพร้อมที่จะ รับฟังเสียงจากประชาชนและทุกภาคส่วน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำปนเปื้อนโลหะหนักและสารหนูร่วมกัน
เป้าหมายสำคัญคือการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าพวกเขาจะได้อยู่ใน สิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัย ในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูสภาพ เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ในพื้นที่ให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม
มุ่งมั่น "ออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น"
นายสุชาติ ยังกล่าวเสริมว่า การกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการ ควบคุมมลพิษ และ ปกป้องระบบนิเวศ ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลมีความเข้าใจและจะสนับสนุนการดำเนินการทุกอย่าง ทั้งจะพิจารณา ออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว
การกำหนดมาตรฐานสิ่งแวดล้อมถือเป็นการสร้างเกณฑ์เพื่อลดผลกระทบจากมลพิษต่อสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติและสุขภาพของประชาชน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมให้มีความสมดุล







